slider2
slider2
previous arrow
next arrow
รีวิว Terminator Salvation เมื่อสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรถึงจุดเปลี่ยน

รีวิว Terminator Salvation เมื่อสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรถึงจุดเปลี่ยน

Terminator Salvation (2009) เป็นหนังในแฟรนไชส์ที่หลายคนรู้จักกันดีและยอมรับในความยิ่งใหญ่ของมัน โดยเฉพาะภาค 1 และ 2 ที่ถือเป็นตำนานของหนังแอ็คชั่นและไซไฟ แต่พอมาถึงภาคที่ 4 อย่าง Terminator Salvation หลายคนก็เริ่มสงสัยว่าจะยังคงความสนุกและความตื่นเต้นได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ? ต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้มันยังพอสนุก แต่ไม่ได้ดีเท่าภาคก่อน ๆ ที่ทำเอาคนดูลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นจนจบ

รีวิว Terminator Salvation

เรื่องราวใน Terminator Salvation เกิดขึ้นในปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่ Skynet เริ่มสร้างหายนะให้กับโลกและกำลังทำสงครามกับมนุษย์ โดยจอห์น คอนเนอร์ (คริสเตียน เบล) ต้องพยายามนำทีมต่อต้านเพื่อล้มล้าง Skynet และเครื่องจักรที่มันสร้างขึ้นมา

แต่จุดที่หนังภาคนี้มุ่งเน้น ก็คือ การสำรวจว่าโลกในอนาคตจะเป็นยังไงหลังจากเครื่องจักรเริ่มทำลายล้างมนุษย์และบทบาทของมาร์คัส (ซามูเอล แอล. แจ็คสัน) ที่มาพร้อมกับความลับบางอย่างที่เชื่อมโยงกับการเป็นมนุษย์และเครื่องจักรที่มาปะทะกัน ซึ่งตัวหนังค่อนข้างเริ่มต้นได้ดี แต่ก็มีบางจุดที่พอเล่นไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวยังขาดความสมดุลในบางช่วง

คริสเตียน เบล ในบท จอห์น คอนเนอร์ ดูเหมือนจะพยายามแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและการเป็นผู้นำที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของมนุษยชาติ แต่บางทีการแสดงของเขาก็ดูเหมือนจะหนักแน่นเกินไปในบางครั้ง คือมันดีนะที่ตัวละครมีความจริงจังและไม่ยอมแพ้ แต่ถ้ามีอารมณ์ขันหรือความอบอุ่นบ้างก็น่าจะช่วยให้ตัวละครดูมีมิติมากขึ้น

ถึงแม้ว่า เบล จะเล่นได้ดีในบทบาทของ จอห์น คอนเนอร์ แต่มันก็ยังไม่ทำให้เขาดูโดดเด่นเหมือนในภาคที่แล้ว ๆ ที่ตัวละครนี้มีความหลากหลายมากขึ้นในด้านความรู้สึกและอารมณ์

มาร์คัส (ซามูเอล แอล. แจ็คสัน) ก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ แม้ว่าในตอนแรกจะดูเหมือนว่ามีความลึกลับบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวเขา แต่การพัฒนาเรื่องราวของเขายังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร นักแสดงเล่นได้ดี แต่มันขาดการขยายเรื่องราวที่สามารถทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจมากขึ้น การที่เขาเป็นเครื่องจักรในร่างมนุษย์เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ แต่การลงลึกไปในตัวละครนี้กลับไม่ค่อยมีมากนัก

เรื่องของเอฟเฟกต์พิเศษและการถ่ายทำก็ถือว่าไม่ผิดหวัง สิ่งที่เป็นจุดเด่นในภาคนี้ คือ การสร้างฉากแอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร ทั้งการระเบิดและฉากไล่ล่าก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง มันสร้างความตื่นเต้นและช่วยให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้ แต่บางครั้งการใช้เทคนิคเอฟเฟกต์มันเหมือนจะมากเกินไป จนทำให้มันดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ ฉากบางฉากอาจดูเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและเอฟเฟกต์ที่ยิ่งใหญ่เกินความจำเป็น ซึ่งบางครั้งก็คิดว่าถ้าใส่รายละเอียดการพัฒนาเรื่องราวมากขึ้นกว่านี้ก็จะดี

โดยรวมแล้ว Terminator Salvation ถือว่าเป็นหนังที่สนุกพอได้ แต่ก็ไม่ถึงกับยอดเยี่ยมเหมือนที่คนคาดหวังเอาไว้จากแฟรนไชส์นี้ มันยังคงมีจุดที่น่าสนใจและน่าติดตาม แต่ถ้าใครหวังจะเห็นการพัฒนาในระดับเดียวกับภาค 1 หรือ 2 ก็อาจจะผิดหวังไปนิดหน่อย

Terminator Salvation 7️⃣.5️⃣ / 🔟 แม้ว่าจะไม่ได้ดีสุดยอด แต่ก็ยังพอสนุกและคุ้มค่าแก่การดูสักครั้ง