กินของมันเสี่ยงมะเร็ง ? ไขข้อสงสัย อันตรายแค่ไหนกันแน่
ของทอด ของมัน อาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่มีคำเตือนว่า “กินของมันบ่อย ๆ อาจเสี่ยงมะเร็ง” เรื่องนี้จริงหรือแค่ความเข้าใจผิด ? นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้ออกมาอธิบายถึงความเชื่อมโยงระหว่างไขมันและโรคมะเร็ง พร้อมแนะนำวิธีลดความเสี่ยง
อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ถูกเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) รวมถึงมะเร็ง นักโภชนาการเผยว่า ไขมันประเภทนี้กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้เซลล์ผิดปกติและเพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็ง ไขมันอิ่มตัวมักพบได้มากในเนื้อสัตว์ติดมัน นม และผลิตภัณฑ์จากนม ขณะที่ไขมันทรานส์พบในขนมอบ อาหารทอด และมาการีนเป็นหลัก
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ‘น้ำมันทอดซ้ำ’ การใช้น้ำมันที่ผ่านการทอดหลาย ๆ ครั้ง ทำให้เกิดสารพิษ เช่น อะคริลาไมด์ และ โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่อาจทำลายเซลล์ในร่างกาย การบริโภคของทอดจากร้านอาหารที่อาจใช้น้ำมันซ้ำบ่อย ๆ เป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น
ทั้งนี้ ไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกาย ไม่เพียงเพิ่มน้ำหนัก แต่ยังเป็นปัจจัยกระตุ้นมะเร็งโดยอ้อม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผู้ที่มีภาวะอ้วนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติ เนื่องจากไขมันสามารถผลิตสารที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและกระตุ้นฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกินของมันจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของมะเร็ง แต่การบริโภคในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงทางอ้อม ดังนั้น การปรับพฤติกรรมการกินเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
1. เลือกไขมันที่ดี หันมาบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวจากปลา ถั่ว น้ำมันมะกอก และอะโวคาโด
2. เลี่ยงของทอดและอาหารแปรรูป ลดการกินอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำหรือมีไขมันทรานส์สูง
3. เพิ่มอาหารต้านมะเร็ง รับประทานผักผลไม้และธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
4. ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก รักษาสมดุลของร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
สุดท้ายแล้ว กินของมันไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่ควรบริโภคอย่างระมัดระวังและสมดุล หากต้องการมีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้าย คำถามคือ วันนี้คุณเลือกกินอย่างไร ?
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>
