อัลกอริทึมป่วน! ครีเอเตอร์เข้าถึงผู้ติดตามยากกว่าที่เคย
หากย้อนกลับไปเมื่อ 5-10 ปีก่อน ครีเอเตอร์สามารถสร้างฐานผู้ติดตามได้อย่างมั่นคง เนื้อหาถูกส่งตรงถึงแฟนคลับที่กดติดตามไว้โดยไม่มีอุปสรรค แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป อัลกอริทึมกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่าใครจะได้เห็นโพสต์ของใคร ทำให้ครีเอเตอร์ทั่วโลกต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้คอนเทนต์ของตนเองยังคงอยู่รอดในโลกโซเชียลมีเดีย
Patreon แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้โดยตรงจากแฟนคลับ ได้ออกมาเน้นย้ำถึงปัญหานี้ผ่านรายงาน “State of Create” ที่สำรวจความคิดเห็นของ ครีเอเตอร์กว่า 1,000 คน และแฟนคลับ 2,000 คน พบว่า 53% ของครีเอเตอร์มองว่าการเข้าถึงผู้ติดตามยากกว่าห้าปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากอัลกอริทึมที่ควบคุมว่าเนื้อหาใดจะถูกแสดงบนฟีดของผู้ใช้
- เมื่อครีเอเตอร์ถูกอัลกอริทึมปิดกั้นจากแฟนคลับของตัวเอง
โซเชียลมีเดียเคยเป็นพื้นที่เปิดสำหรับการสร้างสรรค์เนื้อหา แต่เมื่อแพลตฟอร์มอย่าง อินสตาแกรม, ติ๊กต็อก และเฟซบุ๊ก ปรับเปลี่ยนไปใช้ฟีดแบบอัลกอริทึม เนื้อหาจากครีเอเตอร์เริ่มถูกจำกัดการเข้าถึง แม้แต่ ไคลีย์ เจนเนอร์ อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก ยังเคยออกมาแสดงความไม่พอใจที่โพสต์ของเธอเข้าถึงแฟนคลับยากขึ้น เนื่องจากระบบให้ความสำคัญกับวิดีโอสั้นมากกว่าภาพนิ่ง
ไม่ใช่แค่ครีเอเตอร์ที่ได้รับผลกระทบ แฟนคลับเองก็เริ่มแสดงความไม่พอใจ รายงานพบว่า 52% ของแฟนคลับมองว่าเนื้อหารูปแบบยาวมีคุณค่ามากกว่าและยินดีจ่ายเงินเพื่อสนับสนุน แต่แพลตฟอร์มโซเชียลยังคงผลักดันวิดีโอสั้นเป็นหลัก แม้จะยังไม่สามารถหาโมเดลการสร้างรายได้จากวิดีโอสั้นที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับคอนเทนต์รูปแบบยาวได้
- โซเชียลมีเดียช่วยสร้างผู้ติดตามเร็ว แต่รักษายาก
ติ๊กต็อก ถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ครีเอเตอร์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาคือ แม้จะมีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าคอนเทนต์จะถูกแสดงให้พวกเขาเห็น ระบบฟีด “For You” เลือกแสดงเนื้อหาตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้มากกว่าการให้ความสำคัญกับครีเอเตอร์ที่ผู้ใช้กดติดตามไว้
สิ่งนี้ทำให้ครีเอเตอร์รู้สึกเหมือนถูกล็อกให้อยู่ในกรอบของอัลกอริทึม 78% ของครีเอเตอร์ยอมรับว่า “อัลกอริทึม” มีผลโดยตรงต่อการสร้างเนื้อหา และ 56% บอกว่าพวกเขารู้สึกหมดกำลังใจที่จะสร้างคอนเทนต์ที่ตนเองต้องการจริง ๆ เพราะต้องพยายามสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของแพลตฟอร์มมากกว่าความต้องการของตนเอง
แจ็ค คอนเต ซีอีโอของ Patreon แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“เมื่อแพลตฟอร์มเข้ามาควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างครีเอเตอร์กับผู้ติดตาม นั่นหมายถึงอำนาจอยู่ที่แพลตฟอร์ม ไม่ใช่ที่ครีเอเตอร์ และสำหรับคนที่ใช้เวลาหลายปีในการสร้างชุมชนของตัวเอง สิ่งนี้น่าหงุดหงิดมาก”
- ครีเอเตอร์ปรับตัว หันหาช่องทางที่ควบคุมได้เอง
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโซเชียลมีเดีย ครีเอเตอร์จำนวนมากเริ่มมองหาแพลตฟอร์มทางเลือกที่ให้พวกเขาสามารถควบคุมการเข้าถึงผู้ติดตามของตนเองได้โดยตรง เช่น Patreon, Substack และ OnlyFans ซึ่งช่วยให้พวกเขาสร้างรายได้จากฐานแฟนคลับที่แท้จริงโดยไม่ต้องพึ่งพาอัลกอริทึมของโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม การจะย้ายแฟนคลับจากโซเชียลมีเดียไปยังแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ครีเอเตอร์จำเป็นต้องมีวิธีในการรักษาความสัมพันธ์กับแฟนคลับและทำให้พวกเขาเต็มใจที่จะสนับสนุน
คาเรน เฉิง ครีเอเตอร์ของ Patreon กล่าวเสริมว่า
“อัลกอริทึมไม่ได้วัดว่าคนต้องการอะไร แต่มันวัดว่าคนให้ความสนใจกับอะไรมากที่สุด”
- อนาคตของครีเอเตอร์ ทางรอดอยู่ที่ไหน ?
การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมกำลังผลักดันให้ครีเอเตอร์ต้องคิดใหม่ว่าพวกเขาจะเติบโตอย่างไรในยุคที่แพลตฟอร์มกำลังควบคุมทุกอย่าง ปัจจุบัน ครีเอเตอร์เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างชุมชนที่มีคุณภาพมากกว่าการไล่ตามตัวเลขผู้ติดตามหรือยอดวิว
แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงผู้ชม แต่ครีเอเตอร์ที่ต้องการอยู่รอดในระยะยาวต้องหาวิธีสร้างช่องทางที่พวกเขาควบคุมได้เอง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว การส่งอีเมลถึงแฟนคลับโดยตรง หรือการใช้แพลตฟอร์มที่เน้นการสนับสนุนจากแฟนคลับแทนการพึ่งพาอัลกอริทึม
อัลกอริทึมอาจเป็นกำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นครีเอเตอร์ แต่การสร้างฐานแฟนคลับที่แท้จริงและมีความผูกพันลึกซึ้งอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาอยู่รอดในยุคที่แพลตฟอร์มกำลังเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน
ท้ายที่สุดแล้ว ครีเอเตอร์ควรเลือกที่จะเป็นผู้ควบคุมหรือจะปล่อยให้แพลตฟอร์มควบคุมทุกอย่างแทน ?
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>