ดื่มชาเขียวอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ? เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณอาจไม่เคยรู้
ชาเขียวเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่เพียงเพราะรสชาติที่หอมละมุน แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นดื่มชาเขียวมาเป็นพัน ๆ ปี โดยเชื่อว่าช่วยส่งเสริมอายุยืนและป้องกันโรคต่าง ๆ ในปัจจุบันงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็สนับสนุนแนวคิดนี้ โดยพบว่าชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้าย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน เป็นต้น
แม้ว่าชาเขียวจะมีประโยชน์มากมาย แต่การดื่มที่ถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารสำคัญอย่างเต็มที่ ปัจจัยแรกที่ต้องคำนึงถึงคือคุณภาพของใบชา ชาเขียวที่มีคุณภาพสูง เช่น มัทฉะหรือชาเขียวออร์แกนิก มักจะมีสารแคทีชิน (Catechins) และแอล-ธีอะนีน (L-Theanine) ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเครียด
อีกปัจจัยที่สำคัญคืออุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงชา หากใช้น้ำเดือดจัดเกินไป จะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในชาเสื่อมสภาพและอาจทำให้รสชาติขมเกินไป ควรใช้น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส และแช่ใบชาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาทีเพื่อให้สารสำคัญถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การเติมน้ำตาลหรือนมลงไปในชาอาจลดประโยชน์ของสารแคทีชินลงได้ การดื่มชาเขียวแบบไม่เติมสารให้ความหวานจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้รับประโยชน์สูงสุด
การดื่มชาเขียวยังสามารถช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ โดยมีงานวิจัยพบว่าชาเขียวช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญไขมันและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย อย่างไรก็ตาม การดื่มชาเพียงอย่างเดียวโดยไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายอาจไม่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างชัดเจน การดื่มชาเขียวควบคู่กับการใช้ชีวิตที่มีความสมดุลจึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมมากกว่า
นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพภายใน ชาเขียวยังมีบทบาทสำคัญในวงการความงามอีกด้วย ปัจจุบันมีการนำสารสกัดจากชาเขียวมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มาสก์หน้า และสครับขัดผิว เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของผิว ลดการเกิดสิว และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ชาเขียวยังสามารถนำมาล้างหน้าหรือใช้เป็นโทนเนอร์เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนและลดความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย
หลายคนอาจสงสัยว่าควรดื่มชาเขียวในช่วงเวลาไหนถึงจะดีที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการดื่มในช่วงเช้าหรือระหว่างวันจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและตื่นตัว เนื่องจากชาเขียวมีคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้ช่วยเพิ่มพลังงานโดยไม่ทำให้ใจสั่นเหมือนการดื่มกาแฟ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาเขียวในช่วงเย็นหรือก่อนนอน เพราะแม้ว่าปริมาณคาเฟอีนในชาเขียวจะไม่สูงมาก แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนได้
แม้ว่าชาเขียวจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ แต่การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ การดื่มมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินความจำเป็นและอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวหรือกระวนกระวายได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่มชาเขียววันละ 2-3 ถ้วยต่อวันเพื่อให้ได้รับประโยชน์โดยไม่เกิดผลข้างเคียง
การดื่มชาเขียวเป็นมากกว่าการดื่มเครื่องดื่มทั่วไป แต่เป็นการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก หากคุณต้องการเพิ่มประโยชน์ของชาเขียวให้กับชีวิตประจำวัน ลองเลือกชาเขียวที่มีคุณภาพสูง ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และใช้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่สมดุล เพียงเท่านี้คุณก็สามารถดื่มชาเขียวอย่างมีประสิทธิภาพและเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>