slider2
slider2
previous arrow
next arrow
บทใหม่ของ พัคจินยอง จากเสียงเพลงสู่ตัวตนที่แท้จริง ก่อนก้าวสู่บทบาทใหม่ในชีวิต

บทใหม่ของ พัคจินยอง จากเสียงเพลงสู่ตัวตนที่แท้จริง ก่อนก้าวสู่บทบาทใหม่ในชีวิต

เมื่อพูดถึง พัคจินยอง ชื่อของเขามักจะถูกนึกถึงในฐานะหนึ่งในสมาชิกวง GOT7 กลุ่มบอยแบนด์เกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วเอเชีย

แต่ จินยอง ไม่เคยหยุดนิยามตัวเองไว้เพียงแค่นั้น เพราะตั้งแต่เดบิวต์เข้าวงการบันเทิง เขาก็ต้องแบกความคาดหวังจากสังคมไว้บนบ่า พร้อมคำถามที่ฝังลึกในใจมาตลอดว่า “แล้วตัวตนที่แท้จริงของผมคือใคร ?”

พัคจินยอง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ในขณะที่สมาชิกวงยังอยู่ในช่วงวัย 20 ต้น ๆ จินยอง และ เจบี ได้ปล่อยอัลบั้มพิเศษ VERSE 2 อัลบั้มที่แม้จะเล็กในรูปแบบ แต่ยิ่งใหญ่ในความหมาย เพราะมันคือเสียงสะท้อนของความสับสน ความลังเล และความหวังของชายหนุ่มสองคนที่กำลังเดินเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

ซึ่งเนื้อหาของเพลงในอัลบั้มเต็มไปด้วยคำถามถึงอนาคต ความไม่มั่นใจในทางเลือก และความหวาดกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็น เหมือนกับว่าพวกเขายืนอยู่หน้าประตูของชีวิตบทใหม่โดยยังไม่มีใครกล้าผลักเข้าไป

7 ปีผ่านไป จินยอง กลับมาอีกครั้งด้วยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิตอย่าง Chapter 0 : WITH ผลงานที่เขาตั้งใจทำขึ้นเพื่อปิดฉากวัย 20 ของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็เป็นการเตรียมใจสำหรับการเกณฑ์ทหารที่กำลังจะมาถึงในอีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้า

“เป้าหมายของผมในปีนี้ คือ อยากทำงานให้เยอะที่สุด เพื่อเก็บความทรงจำในช่วงวัย 20 เอาไว้ให้มากที่สุด และผมก็ทำได้” จินยอง กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนธันวาคม “ผมไม่มีอะไรเสียใจเลย แม้บางช่วงเวลาจะยากลำบาก แต่ผมก็พยายามอย่างดีที่สุด”

ความตั้งใจของเขาชัดเจนในทุกแทร็กของ Chapter 0 : WITH เพราะมันไม่ใช่แค่อัลบั้มเพลง แต่มันคือการเปิดเผยตัวตนของ จินยอง ในแบบที่เขาอยากให้ผู้ฟังได้รู้จัก ไม่ใช่ไอดอลที่ใครสร้างขึ้นมา แต่คือ พัคจินยอง ที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง

ตั้งแต่เพลงแรก Animal เขาเผยให้เห็นด้านที่เปราะบางที่สุดของตนเอง เสียงที่เปล่งออกมานั้นไม่ใช่เพียงเสียงร้อง แต่คือเสียงภายในใจที่ตะโกนถามว่า “ในความเหงาและความว่างเปล่า / ผมคือใครกันที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ?” น้ำเสียงในเพลงเต็มไปด้วยความลังเล แต่ก็เด็ดเดี่ยวพอจะยอมรับความจริงที่ว่า “No matter how much I hid it, I couldn’t hide it” ถึงพยายามจะปิดบังแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่สามารถซ่อนตัวตนที่แท้จริงได้อยู่ดี

ทว่าหลังจากท่อนทำนองที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความอบอุ่นก็ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ เพลงถัดมาอย่าง Cotton Candy และ Our Miracle ได้บอกเล่าเรื่องราวความรักในมุมที่เบาสบาย หวานละมุน เหมือนขนมสายไหมในหน้าร้อน โดยเสียงของ จินยอง ไม่เพียงแต่นุ่มนวล แต่ยังมีความสดใสบางอย่างที่ทำให้หัวใจผู้ฟังอบอุ่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และในที่สุด เขาก็ส่งท้ายด้วยเพลง Letter จดหมายแห่งความคิดถึงที่เขาเขียนให้กับคนสำคัญในชีวิต

ในมิวสิกวิดีโอ Letter จินยอง นั่งอยู่กลางห้อง เงียบ ๆ เปิดจดหมายทีละฉบับ พลางเก็บของเตรียมตัวจากลา และเมื่อกล้องแพนออก ผนังรอบห้องกลับพังทลาย เผยให้เห็นว่าทั้งหมดคือฉากในกองถ่าย มันเป็นการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ว่า แม้ชีวิตของเขาจะถูกจัดฉากผ่านสายตาผู้คนมากมาย แต่ในท้ายที่สุด สิ่งที่แท้จริงที่สุด คือ ความรู้สึกในใจของเขาเอง

เมื่อเขามองตรงเข้าสู่กล้อง น้ำตาคลอเบ้า ก่อนที่หยดน้ำใสจะร่วงลงมาอย่างช้า ๆ มันไม่ใช่การแสดง แต่มันคือช่วงเวลาที่เขาปลดปล่อยตัวเองจากกรอบเดิม ๆ ที่เคยอยู่

สิ่งที่ทำให้ Letter ทรงพลังยิ่งกว่านั้น คือ การที่เนื้อหาของเพลงเชื่อมโยงกับผลงานในอดีตอย่าง Tomorrow, Today จาก VERSE 2 ที่เขาร้องร่วมกับ เจบี เมื่ออายุเพียง 21 ปี ตอนนั้นพวกเขาร้องด้วยหัวใจที่สั่นไหว “Again there are questions that I don’t know / I’m trying to answer, but I’m not confident” แต่วันนี้ จินยอง ในวัยใกล้ 30 กลับมายืนอยู่จุดเดิม พร้อมคำตอบที่โตขึ้นและน้ำเสียงที่นิ่งกว่าเดิม

แน่นอนว่าเส้นทางของเขาไม่ได้หยุดเพียงแค่ดนตรี เพราะอีกหนึ่งด้านที่เขาได้แสดงออกอย่างเต็มที่ คือ การเป็นนักแสดงจาก He is Psychometric ที่เขารับบทหนุ่มน้อยมีพลังพิเศษ ไปจนถึง Yumi’s Cells 2 ที่โชว์ความโรแมนติกอ่อนโยน และล่าสุดใน Christmas Carol ที่เขาสวมบทฝาแฝดผู้ถูกพรากจากกันด้วยความตาย

บทบาทนั้นไม่ง่าย เพราะต้องแสดงอารมณ์สองตัวละครที่ตรงกันข้าม และยังต้องถ่ายทอดความเจ็บปวดอย่างเข้มข้น ซึ่ง จินยอง กล่าวว่า “บทหนังแรงก็จริง แต่ยังเบากว่านิยายต้นฉบับมาก ผมดีใจที่ได้อ่านนิยายก่อน ไม่อย่างนั้นคงตกใจ”

สิ่งที่ทำให้เขาน่าสนใจ คือ ความกระหายในการเติบโต เขาไม่กลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าบทจะยากแค่ไหน ขอแค่ให้เป็นบทที่เหมาะกับวัยในตอนนี้ “ผมอยากลองทุกบทบาทที่เหมาะกับวัยนี้ เพราะอีกหน่อยมันจะไม่เหมาะแล้ว” เขากล่าวด้วยแววตาที่จริงจัง

ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่สะท้อนผ่าน Chapter 0 : WITH อัลบั้มที่อาจเรียกได้ว่าเป็นทั้งจดหมายแห่งความทรงจำ บันทึกของชีวิต และประตูที่เปิดสู่การเริ่มต้นบทใหม่ของ พัคจินยอง

และแม้เขาจะหายไปจากวงการสักพัก เพื่อทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองชายเกาหลีใต้ แต่แฟน ๆ ต่างรู้ดีว่า จินยอง จะกลับมา พร้อมกับตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

เพราะนี่ไม่ใช่จุดจบของบทเพลง แต่คือการเปลี่ยนหน้าไปสู่ Chapter 1 บทที่เราทุกคนกำลังรออ่านด้วยหัวใจที่เต้นแรง

หมายเหตุ : นี่เป็นบทความเก่าที่นำมาทำคอนเทนต์เท่านั้น

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>