รีวิวซีรีส์ Running Point (2021) เกมธุรกิจและบาสเกตบอลที่ยังไม่ถึงเส้นชัย

ในปี 2021 Running Point เปิดตัวในฐานะซีรีส์แนวคอมเมดี้ดราม่าที่พยายามจะผสมผสานโลกของธุรกิจ กีฬา และเรื่องราวครอบครัวเข้าด้วยกัน โดยมี เคท ฮัดสัน (Kate Hudson) รับบทเป็น ไอลา กอร์ดอน หญิงสาวที่ไม่เคยคิดจะมีบทบาทในโลกของกีฬามาก่อน แต่กลับต้องเข้ามาดูแลทีมบาสเกตบอลลอสแอนเจลิสเวฟส์ (Los Angeles Waves) อย่างกะทันหัน

เมื่อพี่ชายของเธอซึ่งเป็นเจ้าของทีมถูกบังคับให้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ซีรีส์เรื่องนี้สร้างโดย มินดี้ คาลิง (Mindy Kaling) และได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ เจนนี่ บัสส์ (Jeanie Buss) ประธานหญิงของทีมลอสแอนเจลิสเลเกอร์ส ที่สามารถพิสูจน์ตัวเองในโลกของกีฬาบาสเกตบอลที่ถูกครอบงำโดยผู้ชายได้สำเร็จ

👉🏻 การแสดงและตัวละคร

เคท ฮัดสัน เป็นจุดเด่นที่สุดของซีรีส์นี้ เธอรับบทเป็นหญิงสาวที่เคยใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ แต่กลับต้องรับผิดชอบทีมบาสเกตบอลที่เต็มไปด้วยปัญหา ทั้งเรื่องการบริหาร นักกีฬาที่มีอีโก้สูง และการต่อรองทางธุรกิจ ฮัดสันสามารถถ่ายทอดบุคลิกที่มีเสน่ห์และความกวนของตัวละครออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ตัวละครไอลาเป็นที่จดจำ แม้ว่าบางช่วงเธอจะดูเป็นคนที่ไม่ได้เติบโตขึ้นมากนัก

นอกจากฮัดสันแล้ว เชต แฮงส์ (Chet Hanks) ซึ่งรับบทเป็น ทราวิส บักก์ (Travis Buck) นักกีฬาดาวรุ่งที่มีทั้งพรสวรรค์และปัญหาส่วนตัว ก็น่าสนใจไม่น้อย แม้ว่าในบางตอนบทของเขาจะถูกทำให้ดูเป็นตัวตลกมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ตัวละครของเขาช่วยให้เรื่องราวมีสีสัน และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ไอลาเข้าใจโลกของบาสเกตบอลมากขึ้น

ปัญหาของ Running Point คือ ตัวละครสมทบบางตัวที่ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อเป็นสีสันในเรื่อง โดยขาดการพัฒนาเชิงลึก ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการทีมและโค้ชที่ดูเหมือนจะมีปมของตัวเองแต่ไม่ได้รับการขยายความมากพอ ทำให้เรื่องราวในบางตอนดูเบาบางกว่าที่ควรจะเป็น

👉🏻 บทและการเล่าเรื่อง

Running Point เริ่มต้นได้อย่างน่าสนใจ เพราะการจับหญิงสาวที่ไม่มีพื้นฐานด้านบาสเกตบอลมาเผชิญกับอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูง เป็นพล็อตที่มีศักยภาพในการสร้างทั้งความฮาและดราม่า อย่างไรก็ตาม เมื่อดำเนินเรื่องไปได้สักพัก ซีรีส์กลับไม่ได้สร้างแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งพอ หลายตอนมีโครงเรื่องที่สามารถคาดเดาได้ และบางครั้งความขัดแย้งก็ถูกแก้ไขอย่างง่ายดายเกินไป

สิ่งที่ขาดหายไปจากซีรีส์นี้ คือ ‘เดิมพัน’ ที่ชัดเจน แม้ว่าไอลาจะต้องพิสูจน์ตัวเองในโลกของกีฬาชาย แต่ซีรีส์กลับไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงแรงกดดันที่เธอต้องเผชิญอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับซีรีส์แนวเดียวกันอย่าง Ted Lasso ซึ่งสามารถสร้างอารมณ์ร่วมได้มากกว่า Running Point ยังไม่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครได้เต็มที่

👉🏻 การกำกับและบรรยากาศ

ในแง่ของภาพรวม Running Point ให้บรรยากาศที่สดใสและมีพลัง การถ่ายทำในฉากสนามบาสเกตบอลและห้องประชุมทีมดูสมจริง มีการใช้เทคนิคมุมกล้องที่ช่วยสร้างความรู้สึกมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะในฉากที่ตัวละครต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิง

อย่างไรก็ตาม ในบางช่วง การตัดต่อและจังหวะของซีนตลกยังไม่เฉียบคมพอ บางฉากที่ควรจะเป็นไฮไลต์กลับรู้สึกเหมือนถูกยืดออกไปโดยไม่จำเป็น และทำให้เรื่องราวเสียจังหวะ

👉🏻 ข้อดีและข้อเสียของซีรีส์

ข้อดีของ Running Point คือ เคท ฮัดสัน ที่สามารถแบกซีรีส์เอาไว้ได้ด้วยเสน่ห์ของเธอ รวมถึงธีมของเรื่องที่พูดถึงบทบาทของผู้หญิงในโลกกีฬาที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ นอกจากนี้ ซีรีส์ยังมีมุกตลกที่ค่อนข้างเฉียบคมในบางช่วง และมีเคมีที่ดีระหว่างนักแสดงหลัก

แต่ข้อเสีย คือ โครงเรื่องที่ไม่ได้พัฒนาไปไกลเท่าที่ควร ตัวละครบางตัวถูกใช้ไม่เต็มที่ และความขัดแย้งในเรื่องมักถูกแก้ไขได้ง่ายเกินไป ทำให้ขาดความลึกซึ้งและความตื่นเต้น

👉🏻 สรุปและให้คะแนน

Running Point เป็นซีรีส์ที่ดูได้เพลิน ๆ มีความบันเทิงและมุกตลกที่ใช้ได้ แต่ยังขาดความหนักแน่นในแง่ของบทและการพัฒนาตัวละคร สำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวกีฬาแบบเบาสมองหรือเป็นแฟนของเคท ฮัดสัน นี่อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ถ้ากำลังมองหาซีรีส์ที่มีเนื้อหาดราม่าเข้มข้นและการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง อาจจะต้องมองหาตัวเลือกอื่น

คะแนน : 6.5/10

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>