slider2
slider2
previous arrow
next arrow
รีวิวหนังชั้นครู Memento ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ จากยอดผู้กำกับแห่งศตวรรษ เสด็จพ่อ โนแลน

รีวิวหนังชั้นครู Memento ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ จากยอดผู้กำกับแห่งศตวรรษ เสด็จพ่อโนแลน

จิบกาแฟบนเก้าอี้เพลินๆ คิดอยู่ว่าวันนี้จะหยิบอะไรมาเขียนบทความดี อยู่ดีๆก็นึกถึงเรื่องอะไรบ้างที่ทำให้เรารู้สึกว้าวในครั้งแรกหลังดูจบ อยู่ดีๆก็มีเรื่องนึงผุดขึ้นมาทันทีกับภาพยนตร์จากยอดผู้กำกับอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เป็นผลงานการกำกับลำดับที่ 2 ในชีวิตของโนแลน อย่าง Memento ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ (2000) ยังจำความรู้สึกหลังดูจบได้ว่าเหมือนทำให้เรานั่งต่อจิ๊กซอว์ในหัวอยู่ตลอดเวลา เอาล่ะเกริ่นมาเยอะแล้ว วันนี้แอดจะมาป้ายยาให้ทุกท่านฟันเอง!!

เรื่องย่อ Memento ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ (2000)

ลีโอนาร์ด เชลบี้ (แสดงโดย Guy Pearce) ชายที่มีปัญหาไม่สามารถเก็บความทรงจำในระยะสั้นได้ ส่งผลให้เมื่อเขาเจอกับเหตุการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต เขาจะจดจำได้แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ในความทรงจำของเขาไม่มีสิ่งอื่นใดหลงเหลือนอกจากการตามล่าหาฆาตกรที่ฆ่าข่มขืนภรรยาของเขา และทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาวะจดจำอะไรไม่ได้เช่นนี้ จากการกระทำของชายที่มีชื่อว่า จอห์น จี ภารกิจครั้งนี้เมื่อพึ่งพาความทรงจำไม่ได้ เขาจึงต้องใช้โน้ตและรอยสักของตัวเองเป็นตัวแทนความทรงจำที่มีอยู่ แต่สุดท้ายแล้วความทรงจำที่เขามีอยู่จากการสร้างขึ้นมาเองนั้น มันจะเชื่อได้แค่ไหนกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใครบ้าง

  • สายหนังเล่าเรื่องล้ำๆ
  • สายหนังติ่งเสด็จพ่อโนแลนด์
  • สายหนังอาชญากรรมซับซ้อน

สำหรับ Memento เหมาะกับคนที่ชอบหนังของเสด็จพ่อโนแลนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และพร้อมกระโจนเข้าไปในเรื่องราวที่ต้องอาศัยความตั้งใจ ใช้ความคิดในการดู จากการเล่าเรื่องที่สลับซับซ้อนไม่เหมือนใคร มีทั้งจากหน้าไปหลัง และหลังไปหน้าด้วยแล้ว คนที่ชอบหนังที่ใช้ความคิดเยอะๆ และให้สมองได้ทำงาน ก็น่าจะสนุกกับมันได้อยู่ไม่น้อยเลย แต่สำหรับคนที่ชอบดูอะไรง่ายๆ เรื่องนี้ก็อาจไม่เหมาะเท่าไรนัก เพราะหนังไม่ได้มีฉากแอคชั่นอึกทึกโครมคราม แต่กลับเต็มไปด้วยบทพูดของตัวละครมากมายแทน แถมด้วยการคัทซีนที่ไม่ปะติดปะต่อสื่อถึงตัวเชลบี้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมอีก ทั้งในบางช่วงก็อาจจะอืดเกินไปสำหรับใครที่ชอบหนังสไตล์ตื่นเต้นๆ หรือชวนลุ้นระทึกกว่านี้ด้วย ใครที่ชอบหนังท้าทายสมอง อย่าง Dark City, Predestination หรือ Inception แล้ว ต้องลอง Memento สักครั้งจริงๆ

รีวิว/สรุปเนื้อหา

ผลงานเรื่องที่ 2 ที่เรียกว่าแจ้งเกิดให้กับความอัจฉริยะของผู้กำกับ Christopher Nolan เลยก็ว่าได้ เพราะเทียบกับสเกลของหนังเรื่องหลังๆ ของเขาแล้วเรื่องนี้นับเป็นหนังเล็กที่ทุนต่ำมาก แต่มันกลับสร้างความท้าทายกับสมองคนดูให้เริ่มต้นทำงานตลอดเวลานับตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องไปจนถึงตอนจบ ด้วยลูกเล่นที่ไม่เหมือนใครกับการเล่าเรื่องแบบย้อนถอยหลัง พร้อมทั้งเฉลยกันโต้งๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าปลายทางของเรื่องราวจะเป็นเช่นไร และจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครแต่ละตัวบ้าง แต่ที่ประหลาดใจก็คือตัวหนังกลับยังสนุก และสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนดูได้อยู่

เพราะตัวหนังมีการสับขาหลอกไปมา ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวมีต้นสายปลายเหตุมาจากอะไรกันแน่ ตัวละครแต่ละตัวที่ต่างมาเติมในหนังนี้ แม้ว่าบางคนจะดูเหมือนให้ความช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับอดีตของตัวละครได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ดูเหมือนแต่ละตัวจะมีผลประโยชน์แอบแฝงของตัวเอง หรือหลอกใช้ตัวเอกทำอะไรบางอย่าง จนยากที่จะเชื่อใจได้ ก็ทำให้คนดูเองก็ไม่แน่ใจไปพร้อมๆ กับตัวละครเอกของเรื่องว่า อะไรคือข้อเท็จจริงกันแน่ เพราะตลอดการเปลี่ยนซีนของหนัง ก็ทำให้คนดูฉงนได้ตลอด ว่าใครหลอกใคร ใครหักหลังใคร จนอยากรู้ที่มาของเรื่องราวแบบใจจะขาด ทั้งที่โดยปกติแล้วเราควรอยากรู้ผลของเรื่องราวมากกว่า

ด้วยการที่หนังเล่นท่ายาก ทั้งการตัดช่วงภาพสี ที่เล่าย้อนหลังจากผลไปต้นเหตุ และการตัดฉากไปที่ช่วงขาวดำที่เล่าเรื่องเดินหน้าปกติจากเหตุไปผล ทำให้ในการดูครั้งแรกที่อาจยังจับทางไม่ได้นั้น อาจสร้างความสับสนมึนงงให้กับคนดูอยู่พอสมควร อีกทั้งหนังยังดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนาเป็นหลัก ทำให้คนดูต้องอาศัยความตั้งใจและสมาธิในการดูอยู่มาก เพื่อที่จะให้เข้าใจและสนุกกับหนังไปได้ แต่ถึงอย่างไร Memento ก็ยังเป็นหนังของเสด็จพ่อโนแลนในยุคแรกๆ ที่เน้นรูปแบบแปลกใหม่ สอดแทรกความชาญฉลาด ชวนค้นหา และพร้อมให้คนดูหนังซ้ำได้อีกสักที (หรือมากกว่านั้น) หากยังไม่เข้าใจตัวหนังได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยความซับซ้อนที่ว่าก็ทำให้หนังได้มีโอกาสเข้าชิงรางวัลสำนักต่างๆ ในสาขาของบทยอดเยี่ยมอีกด้วย (แต่ก็ไม่ได้อะไรติดมือกลับมา)

เขียนบทความโดย : Ad MOB

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.com>>