slider2
slider2
previous arrow
next arrow
รีวิว Il Gattopardo ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์สุดอลังการ ถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงของซิซิลีผ่านชีวิตขุนนางผู้สูงศักดิ์

รีวิว Il Gattopardo ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์สุดอลังการ ถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงของซิซิลีผ่านชีวิตขุนนางผู้สูงศักดิ์

ซีรีส์ Il Gattopardo หรือ The Leopard (2025) เป็นผลงานดัดแปลงจากนวนิยายระดับตำนานของ จูเซปเป้ โตมาซี ดิ แลมเปดูซา ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1958 และเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดย ลุคคิโน วิสคอนติ ในปี 1963 จนกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดเรื่องหนึ่งของอิตาลี

รีวิว Il Gattopardo

มาปี 2025 ซีรีส์เวอร์ชันใหม่ของ Netflix ได้นำเรื่องราวสุดคลาสสิกนี้กลับมาเล่าใหม่ผ่านโปรดักชันที่อลังการ ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงของซิซิลีช่วงศตวรรษที่ 19 อย่างละเมียดละไม

เรื่องราวของ Il Gattopardo เกิดขึ้นในปี 1860 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์อิตาลีที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนจากการปฏิวัติของ จูเซปเป้ การิบัลดี (Giuseppe Garibaldi) ที่นำไปสู่การรวมชาติอิตาลี

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ เจ้าชายแห่งซาลินา ดอน ฟาบริซิโอ คอร์เบรา (รับบทโดย คิม รอสซี สจ๊วต) ผู้เป็นขุนนางชาวซิซิลีที่มีอำนาจและเกียรติภูมิ ต้องเผชิญกับการล่มสลายของชนชั้นขุนนางที่เคยรุ่งเรือง เขาต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของครอบครัว รวมถึงการแต่งงานของหลานชาย แทนเครดี (รับบทโดย เซา นันนี) กับ อันเจลิกา (รับบทโดย เดวา คาสเซล) หญิงสาวจากตระกูลชนชั้นกลางที่มีฐานะมั่งคั่ง

การตัดสินใจครั้งนี้อาจช่วยให้ครอบครัวของเขายังคงอยู่รอดในยุคสมัยใหม่ แต่ขณะเดียวกันมันก็นำไปสู่ความเจ็บปวดของลูกสาวแท้ ๆ อย่าง คอนเชตตา (รับบทโดย เบเนเดตตา ปอร์คาโรลี) ผู้ซึ่งถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง

การดัดแปลงครั้งนี้ได้รับเสียงชื่นชมในแง่ของงานสร้างที่หรูหราและภาพที่งดงาม ซึ่งซีรีส์นำเสนอรายละเอียดของชีวิตชนชั้นสูงซิซิลีในยุคปลายศตวรรษที่ 19 ได้อย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นฉากปราสาทเก่าแก่ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรหรือเครื่องแต่งกายที่เเสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของชนชั้นขุนนาง

นักวิจารณ์จาก The Telegraph ถึงกับบรรยายว่า “เป็นหนึ่งในซีรีส์ย้อนยุคที่สวยงามที่สุดแห่งปี แม้บางจุดจะเอนเอียงไปทางเมโลดราม่า แต่ก็ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ”

ขณะที่ The Independent ยกย่องว่า “นี่คือการดัดแปลงที่ผสมผสานสไตล์และเนื้อหาได้อย่างลงตัว ทำให้เรื่องราวที่คุ้นเคยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง”

หนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์ คือ การแสดงของ คิม รอสซี สจ๊วต ในบทเจ้าชายฟาบริซิโอ ซึ่งสามารถถ่ายทอดความขัดแย้งภายในของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง เขาคือขุนนางที่ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่ภายในเต็มไปด้วยความเศร้าโศกจากการเห็นโลกเก่าของเขาค่อย ๆ สลายไป

ขณะที่ เซา นันนี ในบทหลานชาย แทนเครดี ก็ถ่ายทอดบทบาทของชายหนุ่มผู้ทะเยอทะยานที่พร้อมจะปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วน เดวา คาสเซล ที่รับบทเป็น อันเจลิกา ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง เธอสามารถสะท้อนความงามอันเย้ายวนและเสน่ห์ที่ทำให้เธอสามารถก้าวขึ้นสู่สังคมชั้นสูงได้อย่างสมศักดิ์ศรี

อีกทั้งซีรีส์เรื่องนี้ยังมีดนตรีประกอบที่ช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของเรื่องราวได้เป็นอย่างดี เสียงไวโอลินและเปียโนที่แฝงไปด้วยความโหยหาและความขัดแย้งระหว่างโลกเก่ากับโลกใหม่ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยที่ซิซิลียังเต็มไปด้วยเสน่ห์และความขัดแย้ง

แม้ว่าซีรีส์จะได้รับคำชมอย่างมากในด้านโปรดักชันและการแสดง แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับจังหวะการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้าและเต็มไปด้วยบทสนทนาที่ลึกซึ้ง ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ชมที่คาดหวังเรื่องราวที่กระชับและเข้มข้น

ดังนั้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์แนวประวัติศาสตร์และดราม่าที่แฝงไปด้วยสัญลักษณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย Il Gattopardo ถือเป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>