รีวิว SKYLINES (2020) เมื่อทีมทหารชั้นเเนวหน้าต้องหยุดภัยคุกคามจากอวกาศ

เอาล่ะคะทุกคน มาเริ่มต้นพูดถึง Skylines กันดีกว่า ภาคนี้เอาจริง ๆ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นแค่ภาคต่อแบบเดิม ๆ เลยนะคะ ที่สำคัญ คือ มันดีกว่าภาคแรกไปเยอะ (เเต่บางคนอาจบอกว่าภาคเเรกสนุกกว่าก็ไม่เป็นไร) อาจจะไม่บ้าคลั่งเหมือน Beyond Skyline ที่เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เคยดู (ก็ใครจะไปลืมการต่อสู้แบบมวยหมัดที่ใส่กันสุดเหวี่ยงละ) แต่ Skylines กลับพาเราไปในเส้นเรื่องที่เยอะกว่านั้น ทั้งแอ็คชั่น ชวนลุ้น และมีการพัฒนาตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกเข้าใจและเห็นใจพวกเขา

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน Beyond Skyline ผ่านไป 10 ปีค่ะ เเละเเล้วทุกอย่างก็ต้องพังไปตามธรรมชาติ หลังจากที่พวก Harvesters (หรือพวกต่างดาวที่มาเข้ายึดโลก) โจมตีเราแบบไม่เกรงใจใคร โลกก็เข้าสู่โหมด Post-Apocalypse ตามที่เราคุ้นเคย แต่แหงๆ มันจะมีปัญหามากขึ้นอีก ไวรัสใหม่ระบาดใน Pilots (มนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงจากต่างดาว) ตอนนี้พวกเขากลับมาแบบร้ายกาจอีกแล้ว ต้องมีคนไปหาวิธีรักษาสักหน่อยสิ

ไม่ต้องห่วงค่ะ ทุกคน! ทีมงานที่เราคุ้นเคยมาก่อนกลับมาพร้อมพละกำลังเต็มที่ และแน่นอนว่าใครที่เป็นแฟนของ Lindsey Morgan จากซีรีส์ The 100 จะต้องชอบบทบาทของเธอในเรื่องนี้แน่นอน เพราะเธอเป็น Captain Rose Corley ที่ดูแข็งแกร่งเหมือนบุกโลกเอง อารมณ์แสบ ๆ ที่เคยเจอในซีรีส์นี้ยิ่งทำให้รู้สึกว่า “เธอเก่งขนาดนี้เลยเหรอ ?” ซีนที่เธอท้าทายทั้งการแบกรับภาระจากอดีตกับการรับมือสถานการณ์ในอนาคต มันดีงามจริง ๆ

แน่นอนว่าแค่มี Lindsey Morgan ก็พอแล้วใช่มั้ย ? ไม่ค่ะ ยังมีพระเอกสายบู๊ที่ท่านจะรัก Alexander Siddig จาก Star Trek ก็มาอยู่ในบทบาทที่ทำให้รู้สึกว่าเฮ้ย มันต้องมีคนมาช่วยคิดด้วยนะ เออ แต่บางทีพวกท่านก็แอบอ่อย ๆ อยู่บ้าง แบบว่าเฮ้ย น่ารักแบบสปอยล์มาก ๆ เลย

อย่าลืมว่าพวกเขายังมีทีมงานอย่าง Daniel Bernhardt ที่เคยเล่นใน The Matrix และ Atomic Blonde มาร่วมแจม เราก็เริ่มคิดแล้วว่า “โอ้ยยย ทีมนี้ไม่ธรรมดาเลย” พวกเขามีฝีมือมากมายในการแก้ปัญหาที่ดูยากจริง ๆ ที่สำคัญ บอกเลยว่า James Cosmo กับ Rhona Mitra ก็ไม่แพ้ใครในบทบาทนี้ ท่าทางดูสง่าแบบจะฆ่าคนก็ได้ในมุมที่สวยงาม

ก็ต้องบอกว่าแม้เรื่องนี้จะช้าไปหน่อยในช่วงเริ่มต้น เพราะมันไม่ได้เต็มไปด้วยแอ็คชั่นแบบเดิม ๆ ที่คนดูชอบ อย่าลืมว่าภาคนี้เปลี่ยนแนวไปเป็น ‘men on a mission’ ที่จะพาคุณไปพบกับอะไรใหม่ ๆ เเต่แน่นอนค่ะ บางคนอาจจะคิดว่า “เฮ้ยยย นี่มันไม่มันส์เท่าภาคก่อนนี่นา” แต่จริง ๆ แล้วมันก็เป็นความสนุกในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยนักในหนังไซไฟ มันไม่ได้มุ่งไปที่แค่การฟาดฟัน แต่พวกเขาต้องคิดให้ดี ก่อนที่จะทำอะไรแบบใจร้อน (ประมาณนั้น)

ในส่วนของการบู๊ จะบอกว่าภาคนี้เน้นการใช้กลยุทธ์และการวางแผนมากกว่า ไม่ใช่แค่ทุบตีซะจนเหมือนจะเข้าโรงยิม มันค่อนข้างแปลกใจเลยนะ เพราะมันไม่ได้แย่เลย แต่อาจจะดูราบเรียบไปสักหน่อย

ดังนั้น ถ้าคุณคาดหวังว่าภาคนี้จะยิ่งใหญ่เหมือนภาค Beyond Skyline คุณอาจจะรู้สึกผิดหวังหน่อย ๆ แต่ถ้าเปิดใจให้กับมันมากขึ้น บอกเลยว่าคุณจะได้สัมผัสความสนุกที่มันซ่อนอยู่ในทุก ๆ การเคลื่อนไหว

สุดท้ายแล้ว Skylines มันเป็นหนังที่น่าประทับใจในแบบที่หลายคนคงไม่คาดคิด มันมีทั้งเรื่องราวที่ค่อย ๆ พัฒนา มีการต่อสู้ที่ยังสนุกแต่อาจจะไม่เดือดเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ที่แน่ ๆ คือ นี่คือภาคที่ทำให้เรื่องราวทั้งจักรวาลนี้ขยายออกไปอย่างมีเสน่ห์ แม้จะไม่ได้มันส์ในระดับขั้นสุด แต่ก็ทำให้รู้สึกว่า “เออ มันคุ้มค่าแก่การดูนะ”

Skylines (2020) : 8️⃣ / 🔟 ก็เพราะว่าบางทีภาคนี้มันดูเบาไปหน่อย สำหรับคนที่ชอบแอ็คชั่นบู๊มันส์ ๆ แบบภาคก่อน ๆ ส่วนคนที่ชอบความคิดและการพัฒนาตัวละครแบบลึก ๆ ก็จะชอบภาคนี้แน่นอนคะ อย่าลืมลองดูเอง แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องนี้สนุกจริงอะไรจริง 🔥

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>