รีวิว The Little Things (2021) ปมอดีตอันดำมืดในเงื้อมมือฆาตกรต่อเนื่อง

ใครที่กำลังคิดว่าจะดู The Little Things เพราะเห็นรายชื่อสามนักแสดงรางวัลออสการ์แล้วหัวใจเต้นตุ้บ ๆ ว่า “อู้ว! หนังต้องเจ๋งแน่” ขอบอกตรงนี้เลยว่า เตรียมใจไว้ก่อนนิดนึงนะคะซิส เพราะอันนี้ไม่ใช่ The Big Bang แต่มันคือ The Big Meh มากกว่า … 🤔

หนังเล่าเรื่องของ ดีค (รับบทโดย เดนเซล วอชิงตัน) อดีตตำรวจฝีมือดีที่โดนลดขั้นไปทำงานจิปาถะแบบคนหมดไฟ แต่พอมีคดีฆาตกรรมหญิงสาวเกิดขึ้น เขาก็ดันอดใจไม่ได้ ขอแจมกับคดีนี้ซะงั้น โดยมี จิมมี่ (รับบทโดย รามี มาเลค) นายตำรวจหน้านิ่งไร้อารมณ์มาร่วมวง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ควรจะเป็นแนวคู่หูปราบฆาตกรแบบซับซ้อนเขย่าขวัญ แต่ดันออกมาเหมือนคนทะเลาะกันเรื่องจะสั่งชาไข่มุกที่ร้านไหนดี อืม ๆ

พีคกว่านั้น คือ จาเรด เลโท มาในลุคหนุ่มหน้าซีด ผมมันเยิ้ม ตาโตแบบสายเบลอที่แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่านี่ต้องมีความลับ แต่เดี๋ยวก่อนนนน ความลับนั้นคืออะไร ? ไม่มีใครรู้ เพราะบทก็ไม่ค่อยอยากเล่า ทิ้งคนดูไว้กลางทางแบบ “จะเฉลยมั้ยลูก ?” ทำถูกแล้ว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทางงงง 🎧 555+ หยอก ๆ ไม่เกี่ยวกันละ

โทนหนังคือตั้งใจจะดาร์ก แต่กลายเป็นแดร็ก 😬 คือ หนังพยายามจะเล่าแบบเงียบขรึมจริงจัง มีความเชิงจิตวิทยาอะไรเบอร์นั้น แต่พอดูไปเรื่อย ๆ กลายเป็นเหมือนดูตำรวจนั่งถอนหายใจใส่กัน ตัดสลับกับฉากเดินมืด ๆ ใต้ไฟถนน แล้วตัดมามอง จาเรด เลโท อย่างเคลือบแคลงซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนฉากเดิมกดลูป 3 รอบอะค่ะ

พอถึงฉากเฉลย … โอ้โห !!! จังหวะจะโคนคือหงายหลังไปเลย ไม่ใช่เพราะหักมุมเก่งนะ แต่หักแล้วไม่มีน้ำหนัก คือพี่ แฮนค็อก ผู้กำกับจ๋า หนูขออะไรที่มากกว่า “อึ้งแบบงง ๆ” ได้มั้ย หนูอึ้งแต่หนูไม่อินอะลูก

เเต่ที่เเน่ ๆ ต้องให้เครดิต เดนเซล จริง ๆ ที่แบกหนังไว้คนเดียวแบบแม่พระแบกถุงข้าวสารไปช่วยชุมชน พี่เขามีความเก๋า มีน้ำหนัก และถึงแม้บทจะไม่มีอะไรให้เล่นมาก แต่พี่ก็ยัง ‘มีของ’ เสมอ

ส่วน รามี มาเลค … เอิ่ม !!! เอาเป็นว่าอยากให้เขาได้บทที่เข้ากับคาแรกเตอร์มากกว่านี้ เพราะเล่นบทนักสืบแล้วเหมือนคนกำลังง่วง

จาเรด เลโท นั้น… เป็นฆาตกรสายแฟชั่นจิตหลุดที่เล่นซะเว่อร์จนเหมือนหลุดมาจากละครเวทีสยองขวัญตอนงานโรงเรียน

ดังนั้นเเล้ว บทสรุป คือ ‘Little’ จริงจังเลยจ้า

หนังชื่อ The Little Things ซึ่งดูจบแล้วก็เข้าใจเลยว่า ใช่ค่ะ มันเล็กไปหมด ความลุ้นก็เล็ก ความลึกก็เล็ก พีคก็ไม่มี บทจะเป็นแนวระทึกก็ไม่สุด จะเป็นเชิงจิตวิทยาก็เบาไปอีก แล้วคาแรกเตอร์หลัก 3 คนที่ควรจะมาดวลฝีมือกันแบบเดือด ๆ กลับดูเหมือนนั่งรอใครสักคนเดินมาบอก ‘คัท’

คะแนนความรู้สึกหลังดูจบ หนูให้ 4️⃣ / 🔟 ค่ะ (4️⃣ คะแนนนั้นมาจาก เดนเซล ล้วน ๆ พี่เขาคู่ควรค่ะ ส่วนอีก 6️⃣ คะแนนนั้น ขอเก็บไว้ให้หนังที่พีคกว่าและน่าติดตามกว่านี้นิดนึงนะคะ)

ใครอยากดูเพื่อศึกษา ‘ความพลาดอย่างมีสไตล์’ ก็เปิดดูได้ค่ะ แต่ใครคาดหวังความมันส์ ความเฉียบ หรือพล็อตหักมุมจึ้ง ๆ บอกเลยว่าอย่าหวังเยอะ เดี๋ยวจะน้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว เตือนเเล้วน้าาา

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>