กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 แมนยูฯ ได้ลุ้น เมื่อ โจชัว เซิร์กซี ได้ยิง แต่ติดเซฟ อลิสสัน เบคเกอร์

จากนั้น นาทีที่ 56 ทีมเยือน นำห่าง 3-0 โดมินิก โซบอสไล จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายเข้าไปไม่พลาด

นาทีที่ 63 โอกาสของแมนยูฯ โจชัว เซิร์กซี ได้ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่ อลิสสัน เบคเกอร์ ยังปัดออกไปได้อีก

นาทีที่ 77 แมนยูฯ ได้ลุ้นต่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ โจชัว เซิร์กซี สอดมายิงก็ผิดเหลี่ยมหลุดเสาไกลออกไปอีก

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนเต็ม จาก 3 นัด ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง โดยมีแต้มเท่ากับจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ประตูได้เสียของ แมนฯ ซิตี้ ดีกว่า

และอีคนที่วันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ที่ทำหน้าที่ได้ดีสุดๆในฐานะผู้เล่นตำแนน่งหมายเลข 6

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: อ็องเดร โอนานา (ผู้รักษาประตู), นูสแซร์ มาซราวี, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ดิโอโก ดาโลต์, คาเซมิโร, ค็อบบี เมนู, อเลฮานโดร การ์นาโช, บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, โจชัว เซิร์กซี

ลิเวอร์พูล : อลิสสัน เบคเกอร์ (ผู้รักษาประตู), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบสไล, หลุยส์ ดิอาซ, ดิโอโก โชตา

<< รับชมบอลสด ทุกคู่ ครบทุกแมตช์ เฉลี่ยเพียงแค่วันละ 10 บาท ที่ inwiptv >