อดีตพระเอกละครพื้นบ้านชื่อดัง “หนึ่ง มาฬิศร์ เชยโสภณ” ที่โด่งดังและมีชื่อเสียง ล่าสุดได้เปิดใจใน รายการ Z Story Z Holiday เล่าถึงเบื้องหลังที่เจ้าตัวต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่ในช่วงที่ตนเองอยู่จุดสูงสุดของชีวิต
“ช่วงนั้นถ่ายดาบ 7 สีอยู่ เรตติ้งกำลังขึ้นเลย ปรากฏว่าคุณพ่อป่วย หลังจากที่คุณพ่อเริ่มมีอาการไอมาหลายปี ก็คิดว่าไม่ได้เป็นอะไร สุดท้ายมาพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จากปอดแล้วก็ไปตับ คุณหมอบอกว่าอยู่ได้อีก 6 เดือน ตอนนั้นชีวิตของเราในเรื่องการแสดง กำลังพีคมาก หลังจากคุณพ่อเสียได้ไม่นาน คุณแม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก ตอนนั้นเราคิดว่า เราจะพยายามดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไปเพื่อครอบครัว เงินที่มีก็เอาไปลงทุนธุรกิจ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ”
“งานจากที่มีปีละ 5 เรื่อง จู่ๆ ก็เหลือปีละเรื่อง พอไม่มีงาน เราก็อยู่กับบ้าน อยู่กับตัวเอง สุดท้ายก็ใช้ยาเสพติด แต่ตอนนั้นเราคิดว่า นั่นคือทางออก บัตรเครดิตมีประมาณ 10 ใบ ก็ใช้รูด หมุนเงินจนสุดท้ายก็เจอดอกเบี้ย โชคดีที่โดนจับ ต้องบอกว่าโชคดี เพราะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปอีกไกลแค่ไหน ในขณะที่เรากำลังเบลอๆ บ้าๆ อยู่ ก็เหมือนมีคนตบหน้าให้เรามีสติขึ้นมา”
ก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์ปัญหานั้นได้อย่างไร ?
“พอถูกจับ เข้าไปอยู่ในห้องขัง สติก็เกิดขึ้น มันยอมรับได้เลยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะใคร ก้าวต่อไปจะทำอะไร หาวิธีการแก้ปัญหา พอได้ออกมา มีรุ่นพี่บอกว่าไปหาที่หลบหน้าคนก่อนไหม แต่เรากลับมีความรู้สึกว่า ไม่จำเป็น การที่เราจะหลบหนี เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เราพยายามจะหนีปัญหา เพราะฉะนั้นตอนนี้เราไม่หนีแล้ว อะไรจะเข้ามาก็ให้เข้ามาเลย เราก็แค่ใช้ชีวิตปกติต่อไป”
ฝากแนวคิดสำหรับคนที่กำลังคิดหลงผิด ?
“อย่างที่บอกเลยคือ เรื่องของสติ ถ้าคุณมีสติกลับมาได้ ปัญหาที่เห็นว่ามันเป็นทางตัน ไม่มีทางออก คุณเข้าไปได้ มันก็มีทางออกมาได้ สองคืออยากให้พยายามที่จะลุกขึ้นให้ได้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดว่าเราไม่พยายามลุกขึ้น แล้วเราทิ้งตัวอยู่กับพื้น ฟูมฟาย ใครจะมายกยังไงก็ยกไม่ไหว ไม่มีใครช่วยเราได้ เพราะฉะนั้น มันต้องเริ่มจากตัวคุณก่อน ต้องพยายามลุก ได้แค่ไหน เอาให้สุดพลัง”