เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ในช่วงเวลาหนึ่งและทิ้งร่องรอยลึกในวงการภาพยนตร์ คงไม่มีใครลืม The Crow | อีกาพญายม (1994) ที่นำโดย Brandon Lee ผู้จากไปอย่างน่าเศร้าจากอุบัติเหตุขณะถ่ายทำ การเสียชีวิตของเขาได้เพิ่มความโศกเศร้าราวกับเป็นคำสาปให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งทำให้เรื่องราวการแก้แค้นจากหลุมศพกลายเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และสัญลักษณ์แห่งการสูญเสียที่แท้จริง
สำหรับการคืนชีพของ The Crow | อีกาพญายม ในปี 2024 ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เผชิญกับอุบัติเหตุที่น่าเศร้าอย่างในครั้งก่อน แต่กระนั้นการเดินทางของมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อผ่านกระบวนการสร้างที่ยาวนาน ท่ามกลางความท้าทายทั้งการเปลี่ยนแปลงทีมงานและนักแสดงหลายครั้ง The Crow เวอร์ชันใหม่นี้ อาจไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมเช่นเดียวกับต้นฉบับ แต่ก็ไม่ได้ถูกมองข้ามไปเสียทีเดียว
ภายใต้การกำกับของ Rupert Sanders ผู้เคยสร้างผลงานรีบูต Ghost in the Shell (2017) ในครั้งนี้เขาได้นำเอาเนื้อหาจากหนังสือการ์ตูนของ James O’Barr มาปรับใช้กับยุคสมัยใหม่ โดยเน้นไปที่การแก้แค้นของชายหนุ่มที่ถูกฆ่าตายและกลับมามีชีวิตใหม่พร้อมกับนกกาที่เป็นสัญลักษณ์ของความตายและการฟื้นคืนชีพ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์นี้กลับไม่พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเมืองดีทรอยต์ที่เต็มไปด้วยความมืดมนเหมือนในฉบับดั้งเดิม ความแตกต่างที่ชัดเจนคือโทนภาพยนตร์ที่เข้มข้นและจริงจังคล้ายกับผลงานของ Christopher Nolan ที่เคยสร้างชื่อในภาพยนตร์ Batman
Bill Skarsgård รับบทเป็น Eric นักวาดรูปผู้สูญเสียคนรักในเหตุการณ์สังหารที่น่าสะเทือนใจ Skarsgård ผู้ซึ่งเคยรับบทเป็น Pennywise ใน IT (2017) ได้สวมบทบาทเป็นชายหนุ่มที่ต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพื่อล้างแค้นผู้ที่พรากชีวิตคนรักของเขาไป พร้อมกับนักร้องและนักแสดงอย่าง FKA Twigs ที่มารับบท Shelly คนรักของ Eric ซึ่งครั้งนี้ภาพยนตร์ได้ใช้เวลามากขึ้นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละคร แต่ทว่ากลับไม่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความรักที่มีน้ำหนักได้เท่าที่ควร
เนื้อเรื่องใน The Crow ฉบับนี้ ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่คลั่งไคล้แนวเพลงและแฟชั่นแบบโกธิค อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ยังขาดความโดดเด่นและความลึกซึ้งทางอารมณ์ที่ผู้ชมคาดหวังจากเรื่องราวการล้างแค้นที่มีพลัง
แม้ภาพยนตร์จะมีจุดเด่นที่น่าชื่นชมในบางฉาก เช่น การเดินท่ามกลางเสียงดนตรีที่ทำให้นึกถึงความเยือกเย็นและความโกรธแค้นของตัวละครหลัก แต่ทว่าภาพรวม The Crow (2024) กลับไม่สามารถสร้างความทรงจำที่ทรงพลังเหมือนต้นฉบับได้ และยังคงเงาของตำนาน The Crow (1994) ซึ่งยังคงเป็นที่รักของกลุ่มวัยรุ่นโกธิคยุค Gen X
เมื่อเทียบกับเวอร์ชันเดิมแล้ว การคืนชีพครั้งนี้แม้จะมีการปรับเปลี่ยนหลายส่วนให้ทันสมัยขึ้น แต่ก็ยังขาดความกล้าหาญและความสดใหม่ที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง สำหรับแฟนภาพยนตร์และกลุ่มวัยรุ่นที่เคยเติบโตมากับ The Crow ฉบับดั้งเดิม เรื่องราวการแก้แค้นครั้งนี้อาจเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่เลือนหายไปอย่างช้าๆ หลังจากที่นกกาสยายปีกในความมืดมิด