อุดม เเต้พานิช กับการเเสดงเดี่ยวไมโครโฟน
เดี่ยวไมโครโฟนหนึ่งเดียวในเมืองไทย เป็นผลงานของนักพูดชื่อดังอย่าง อุดม เเต้พานิช ชายที่มาพร้อมกับพรสวรรค์อย่างการเล่าเรื่องได้สนุกขบขำ เเต่สอดเเทรกไปด้วยเเง่คิด บทเรียนมากมายเกินกว่าใครสักคนจะลอกเลียนแบบได้ จุดนี้เองกลายเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร จึงพาให้เขาโลดเเล่นในวงการเเสตนด์อัพคอเมดี้ตั้งเเต่อดีตจวบจนปัจจุบัน โดยที่เเฟน ๆ ต่างให้การสนับสนุนเเละไม่มีวี่เเววจะลดลงเลยเเม้เเต่นิดเดียว นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ หากมองจากบัตร sold out เเทบทุกครั้งจนน่าเหลือเชื่อ เนื่องจากทุกคนมองว่าเขาเป็น the only one ในวงการเเสตนด์อัพคอเมดี้ไปเสียเเล้ว
เเต่ในอนาคตอันใกล้ไม่เเน่ว่าการเปลี่ยนเเปลงบางอย่างอาจเกิดขึ้น ความนิยมอาจลดน้อยลง เพราะเท่าที่อ่านคอมเมนต์ตามเเหล่งต่าง ๆ เริ่มมีคนบางส่วนออกมาเเสดงความเห็นว่า “มุกไม่ตลกเหมือนเก่าเเล้ว” ผนวกกับยุคสมัยนี้สถานการณ์บ้านเมืองทำให้ผู้คนหัวเราะน้อยลง เรื่องราวที่เคยถูกมองว่าตลกในอดีต ยุคนี้อาจกลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ซีเรียส เเละมองว่าไม่ควรหยิบยกมาพูดเล่นสนุกปากหากเป็นไปได้ เสมือนการจิกกัดล่าสุดจนเกิดเป็นกระเเสดราม่าชั่วข้ามคืนในทันที บวกกับการมาของวงการสตรีมมิ่ง ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า “จะเสียตังค์ซื้อบัตรไปทำไมกัน นอนดูอยู่บ้านสบายกว่าเยอะ”
ซึ่งก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าสุดท้าย อุดม เเต้พานิช จะปรับตัวอย่างไรเพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะหากเขายังยืนจุดเดิมโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย มันก็น่าคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม การเเสดงโชว์เดี่ยว 13 ของเขาในครั้งนี้ มีการพูดถึงในหลากหลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะการไม่ควรเสียเวลากับเรื่องต่าง ๆ อย่างการร่วมพิธีสารพัดที่นำมาซึ่งความกระอักกระอ่วนใจ ซ้ำยังปิดท้ายโชว์ด้วยการพูดถึงการพอใจในสิ่งที่ตนเองมี โดยขมวดคำสั้น ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า “กูสะดวกเเบบนี้”
สามารถอ่านบทความจากเราเพิ่มเติมได้ที่