แฟนคลับ Silent Hill ต้องดีใจกันถ้วนหน้า เพราะ Konami ประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับการสร้างภาพยนตร์ Silent Hill 2 อย่างเป็นทางการ หลังจากปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยมายาวนานกว่า 16 ปี โดยภาคนี้จะใช้ชื่อว่า Return to Silent Hill ที่เรื่องราวจะอิงมาจากวิดีโอเกมภาคต่อด้วย ขณะที่ คริสตอฟ แกนส์ (Christophe Gans) ผู้กำกับ Silent Hill (2006) ก็จะกลับมานั่งแท่นคุมการกำกับอีกครั้ง
“ภาพยนตร์เรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่จะกลับมายังไซเลนต์ฮิลล์ สถานที่ซึ่งเขาได้รู้จักกับความรักอันยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่เขาจะได้พบกลับเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง” แกนส์ เผย
Christophe Gans shares a message on his upcoming film Return to SILENT HILL.https://t.co/UAuCnvklEr pic.twitter.com/L62uVgENVk
— Konami (@Konami) October 19, 2022
“จุดเริ่มต้นจาก Silent Hill ภาคแรก ที่ทำให้เราเข้าไปสำรวจโลกของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ที่ถูกหมอกมืดบดบังและมันมีอะไรซ่อนอยู่ มันเหมือนกับเราดู The Mist ที่มั้งเมืองติดอยู่ในหมอกและมันพร้อมที่จะกินคุณเข้าไป แต่เรื่องราวในเกม ผู้สร้างเกมได้เปลี่ยนกฎไป ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเราจะกลับไปที่ไซเลนต์ฮิลล์ เมืองที่เป็นจุดเริ่มต้น เรากับได้เห็นโลกที่แปลกประหลาดอีกใบ และบอกเล่ามุมมองของตัวเองที่เรากำลังเล่นอยู่” คริสตอฟ แกนส์ บอกเสริมว่า “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาสยองขวัญมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเราจะต้องหาสัตว์ประหลาดและความสยองขวัญในแบบเดิมทั้งหมดใหม่อีกครั้ง”
นอกจากนี้ แกนส์ ยังบอกอีกว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ในภาพยนตร์ของเขา “ทุกอย่างจะเริ่มต้นด้วยความเคารพ” เนื่องจากหนังภาคแรกได้รับความนิยมส่วนหนึ่งก็เพราะแฟนวิดีโอเกม Silent Hill และหนึ่งในเป้าหมายสำคัญสำหรับภาคต่อนี้ก็คือการออกแบบมอนสเตอร์คลาสสิกจาก Silent Hill ใหม่ ซึ่งแฟน ๆ จะได้เห็นสัตว์ประหลาดกลับมาอีกครั้งในภาคต่อ แล้วก็จะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมายที่ยังไม่เคยได้เห็นมาก่อนในภาคแรก ด้านโปรดิวเซอร์ วิคเตอร์ ฮาดิดา (Victor Hadida) ยังบอกอีกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะผสมผสานระหว่างความยึดมั่นในจิตวิญญาณของวิดีโอเกมและความทันสมัย ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นเพราะหนังภาคนี้ทิ้งระยะห่างจากภาคก่อนมานานถึง 15 ปีแล้ว
“คริสตอฟเขามีแนวคิดที่ชัดเจนในการจะทำให้มันมีความทันสมัย แต่ก็ยังคงยึดมั่นต่อวิดีโอเกมมาก ๆ ด้วย เรายังคงเคารพต่อเจตจำนงของผู้เขียน โปรดิวเซอร์ และโคนามิในการดัดแปลงภาพยนตร์เรื่องนี้” ฮาดิดา อธิบาย “คริสตอฟเป็นคนหนึ่งที่เคารพต่อผลงานที่เคยทำมาก่อน แต่เขาก็ยังคงมีวิสัยทัศน์ของเขาเองด้วย”