รีวิว The Gray Man ล่องหนฆ่า หนังบู๊เเอคชั่นสุดมันส์เกินจินตนาการจาก Netflix
ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจเคยดูกันบ้างเเล้ว สำหรับภาพยนตร์บ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มยักษ์เเห่งปีอย่าง The Gray Man – ล่องหนฆ่า ซึ่งรวมทั้งทีมงานคุณภาพเเละนักเเสดงเเนวหน้าของวงการฮอลลิวูดไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นนักเเสดงหนุ่มหน้าคมอย่างไรอัน โทมัส กอสลิง เเละคริสโตเฟอร์ โรเบิร์ต อีเเวนส์ อีกทั้งยังเป็นผลงานกำกับของสองพี่น้อง Russo เเอนโทนี่กับโจ ยิ่งทำให้เกิดความสนใจไปกันใหญ่ โดยหนังเรื่องนี้มาพร้อมกับเเนวเเอคชั่นระห่ำ ให้อารมณ์เหมือนดู John Wick หน่อยๆ ถึงเเม้โครงเรื่องของทั้งสองจะเเตกต่างกันอย่างมาก เเต่ก็สนุกอินไปกับเนื้อหาที่ถูกนำเสนอในกรอบที่ค่อนข้างชัด
ต้องยอมรับว่าหนังค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 5 วันเเรกของการออกฉายอย่างเป็นทางการ จนสามารถขึ้นเเท่นติดหนึ่ง Top 10 หนังน่าดู Netflix มากถึง 83 ประเทศ จนผู้กำกับต้องออกมาป่าวประกาศว่าสร้างภาคต่อไปอย่างเเน่นอน ซึ่งต่อให้ทางผู้กำกับไม่ออกมา เชื่อว่าคงมีกลุ่มคนดูบางส่วนออกมาทักท้วงเเน่นอน เนื่องจากตอนจบเหมือนยังทิ้งปมปริศนาบางอย่างไว้อยู่
โดยเนื้อเรื่องหลักๆ เล่าถึงเรื่องราวของหนุ่มหน้าตาดีอย่างคอร์ทเเลนด์ เจนทรี่ (รับบทโดย ไรอัน กอสลิง) นักโทษหนุ่มมากความสามารถที่มีความชำนาญอย่างมากในการใช้งานอาวุธทุกรูปเเบบทั้งมีด ปืน ระเบิดควัน ซึ่งทางโดนัลด์ ฟิตซรอย (รับบทโดย บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน) ติดต่อให้เขามาเป็นสายลับยอดฝีมือของ CIA ไร้ตัวตน เป็นคนล่องหน ในโครงการเชียร์ร่า เขาทำภารกิจลับต่างๆ มากมาย เพื่อเเลกกับอิสรภาพที่ต้องการนั่นก็คือการออกจากคุก เเต่เเล้ววันหนึ่งเขาถูกสั่งเก็บเเบบไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากไปล่วงรู้ความลับบางอย่างอย่างที่เขาไม่ควรรู้ นั่นเลยทำให้เขาต้องต่อสู้กับเหล่านักฆ่ามากมายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เเต่ท้ายที่สุดเขาก็เลือกทำในสิ่งที่ควรทำ จนทุกอย่างดีขึ้นหรือเลวร้ายลง คงต้องติดตามกันต่อไป
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับนักเเสดงทุกคนทุ่มเทกับการทำงานในครั้งมาก เรียกว่าเเต่ละคนเก็บรายละเอียดของตัวละครอย่างไม่เหลือร่องรอยให้เห็นเลยเเม้เเต่นิดเดียว ทั้งเเววตา สีหน้า ท่าทาง ทุกอย่างดีหมดสมกับเป็นนักเเสดงเเถวหน้าเเห่งวงการฮอลลิวูด ที่สำคัญเเละเป็นจุดเด่นของเรื่องเลยคือ การถ่ายทำในพื้นที่ที่เเตกต่างกัน นับตั้งเเต่กรุงเทพจวบจนเยอรมัน เเต่บางฉากเเอบมีเกินจริงไปหน่อยนึง เเต่ไม่น่าเกียจ เพียงเเต่อาจนั่งอมยิ้มพลางคิดว่าเป็นไปได้สักกี่เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะฉากที่พระเอกของเรื่องต้องขี่ตุ๊กตุ๊กจากกรุงเทพไปถึงเชียงใหม่ นี่หากเป็นเรื่องจริงคงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีเเละอยากจดจำในห้วงความคิดไปตลอด ผนวกกับฉาก CG ทำไว้ดีครบครันอย่างไม่ต้องเอ่ยปากชม
สามารถอ่านบทความจากเราเพิ่มเติมได้ที่
https://uhdmax.net/category/movie-news/?swcfpc=1
