จัดหนักจัดเต็มด้วยการพาเหล่ารุ่นพี่ภาคเก่ามากันเพียบ กับบทที่ชวนซูเปอร์ฮีโร่พัฒนาตนเอง

ในปัจจุบันนี้ หนังซูเปอร์ฮีโร่กลายเป็นเจ้าประจำในโรงหนังไปแล้ว จะสังเกตได้ว่า เราจะมีหนังสไตล์นี้ให้ดูกันแทบจะทุกเดือน ส่วนหนึ่งเพราะมันกลายเป็นหนังที่ผู้ชมส่วนใหญ่สนใจที่จะเลือกดูกันเป็นอย่างมาก โอกาสทำเงินให้กับสตูดิโอมีค่อนข้างสูง อีกส่วนก็เพราะมนุษย์ชอบความเป็นฮีโร่ ใฝ่ฝันอยากจะมีพลังพิเศษ ไม่ว่าจะใช้มันเพื่อตัวเอง เพื่อช่วยเหลือคนที่รัก หรือเพื่อกอบกู้โลกก็ตาม และก็ถึงเวลาที่หลายคนรอคอย เพราะเป็นเวลาของ Spider-Man: No Way Home

ภาพยนตร์ภาคต่อภาคที่สามของไอ้แมงมุมเวอร์ชันล่าสุด ที่นำแสดงโดย ทอม ฮอลแลนด์ หลังจากมีข่าวกันออกมาไม่ขาดสาย เพิ่มเบาะแสที่ชวนให้สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า หนังจะเล่าบางอย่างที่น่าสนใจ และในที่สุด ก็ได้เวลาที่ไปพิสูจน์กับตาตัวเองเสียทีว่าหนังภาคนี้

จะเป็นอย่างที่เบาะแสบ่งชี้ไว้หรือไม่

เรื่องย่อหนัง สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม

ในที่สุด นี่ก็เป็นครั้งแรกที่สไปเดอร์แมนถูกเปิดโปงว่า เขาคือคนเดียวกับ ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ (Tom Holland จากหนังเรื่อง Chaos Walking, The Devil All the Time และ Onward) สิ่งนี้ทำให้ชีวิตของเขาต้องพบเจอกับเคราะห์กรรมหนักหนาสาหัส ทำให้คนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็น เอ็มเจ (Zendaya จากหนังเรื่อง Dune, The Greatest Showman และซีรีส์ Euphoria), เนด (Jacob Batalon) และรวมทั้งป้าเมย์ (Marisa Tomei จากหนังเรื่อง Only You, The Big Short และ Trainwreck) ต้องเดือดร้อน จนเขาเริ่มทนต่อไปไม่ไหว ถึงขั้นไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ (Benedict Cumberbatch จากหนังเรื่อง The Power of the Dog, The Imitation Game และ The Current War) ช่วยร่ายมนตร์ทำให้ทุกคนในจักรวาลลืมไปว่า ปีเตอร์คือสไปเดอร์แมน แต่ทุกอย่างกลับยิ่งโกลาหลหนักข้อขื้น

เพราะมันได้ชักจูงให้แขกเหรื่อจากทุกจักรวาลมาตามล่าเขา

งานนี้ สไปเดอร์แมนต้องเจอทั้ง ดร.ออคเทเวียส (Alfred Molina), อีเลคโตร (Jamie Foxx) แล้วก็ยังมี กรีนก็อบลิน (Willem Dafoe) ถือเป็นงานที่หนักหนาสาหัสไม่ธรรมดา ภารกิจที่จะทำให้เขารู้ซึ้งถึงคำว่าซูเปอร์ฮีโร่

รีวิวหนัง Spider-Man: No Way Home

แทบจะเล่าเรื่องต่อกันเลยจากภาคก่อน Spider-Man: Far from Home ที่ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ถูกมนุษย์ต่างดาวอย่างมิสเทอริโอ (Jake Gyllenhaal) เปิดโปงว่าตัวจริงคือเขา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เขาจึงต้องขอแรงเพื่อนพ่ออย่างด็อกเตอร์สเตรนจ์ให้ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่วายกลายเป็นเรื่องหนักข้อขึ้น เพราะมันได้ชักชวนแขกจากจักรวาลอื่นมาร่วมวงด้วย คราวนี้ สไปดี้เด็กน้อยยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม คิดอะไรทำอะไรนี่ผิดพลาดตลอดๆ เลยนะ

เรื่องราวในภาคนี้ เหมือนจะให้บททดสอบที่หนักหนากว่าเดิมกับซูเปอร์ฮีโร่วัยกระเตาะที่ยังพึ่งพาพี่เลี้ยง การสนับสนุนจากเพื่อนสนิท และที่สำคัญคือแฟนสาวที่อยู่ข้างกาย เอ็มเจผู้เชื่อมั่นและเป็นกำลังใจให้เขามาโดยตลอด ครั้งนี้ เขาคงจะได้บทเรียนสักทีว่าการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ใช่แค่ใส่ชุดสวมหน้ากาก และทำดีช่วยเหลือผู้คนไปวันๆ มันยังมีแง่มุมอื่นๆ ที่เขาต้องพบเจอ และบางครั้งต้องตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่เลือกได้ยาก ต้องรับผิดชอบ ต้องเสียสละอะไรไปบ้าง

วันนี้ เขาจะได้รู้ซึ้งมันด้วยตัวเอง

แต่เอาเข้าจริง ตัวบทหนังเองแม้จะดีเด่นในหลายจุด หากก็ยังพบว่าความสมเหตุสมผลบางทีก็ยังแหม่งๆ เหมือนจงใจจะให้เหตุมันดำเนินไปในทำนองนั้น เรื่องราวจึงเน้นหนักไปที่ฉากแอคชันและบทสนทนากวนๆ ที่ชวนขำได้หลายดอก อีกเรื่องที่สไปดี้ในจักรวาลนี้ยังคงขาดหาย ก็คงจะเป็นการมีส่วนร่วมของคนตัวเล็กๆ ที่ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ บทหนังยังคงขาดความสัมพันธ์ของซูเปอร์ฮีโร่กับคนเมืองนิวยอร์กอยู่เช่นเดิม แต่ก็พอเข้าใจได้สำหรับภาคนี้ เพราะใส่ตัวละครมาเยอะจัด เวลาจะเล่าอะไรแบบนั้นอาจไม่พอ

สไปเดอร์แมน โน เวย์ โฮม กลายเป็นหนังสไปดี้ที่จัดหนักจัดเต็มตัวละครที่แฟนคลับของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ทุกเวอร์ชันได้อิ่มเอมกับการพบเจอกับคาแรกเตอร์ที่ชื่นชอบ กรี๊ดวี้ดว้ายกับตัวละครที่คิดถึง และยิ้มเริงร่าเมื่อได้เห็นหน้านักแสดงที่อยู่ในความทรงจำ ซึ่งแน่นอนว่า มันก็ไม่ได้มีแค่ที่เห็นในตัวอย่างหรอก ซึ่งเราก็คงไม่เฉลยว่าใคร แต่ถ้าใครเสพโซเชียลเยอะก็อาจโดนสปอยล์ไปเรียบร้อย ซึ่งอันนั้นก็คงช่วยไม่ได้

สิ่งที่น่าสนใจกว่าการที่หนังเซอร์วิสแฟนแบบจัดเต็ม ก็คือ การเอาเรื่องราวเก่าๆ มาขยี้ใหม่ ขยายเรื่องราวที่อาจถูกทิ้งค้างไว้ให้ได้รับโอกาสแก้ปม ใครที่อินมากับทุกภาคก็จะซึมซับเข้าใจได้ทุกบทพูด แต่ถ้าใครลืมๆ ไปบ้างแล้ว แนะนำว่าให้หาของเก่ามาไล่ดูแล้วไปจัดกับภาคนี้ ก็น่าจะได้อรรถรสแบบเต็มขั้น

บอกกันตามตรงว่า มีหลายฉากเหมือนกันที่ทำเอาน้ำตาคลอๆ แต่ก็ได้แค่คลอเท่านั้น เมื่อมาเจอฉากนั้น หัวใจคนอ่อนไหวมันทนไม่ไหว น้ำตามันไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ บอกเลย…โคตรสะเทือนใจ

และก็เช่นเคยทุกครั้งของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวล หนังจะต้องแถมท้ายด้วยฉากพิเศษ ซึ่งในภาคนี้ นอกจากจะโผล่มาช่วงมิดเครดิตแล้ว ก็ยังมีแถมพิเศษสุดท้ายท้ายสุดสำหรับคนที่ยินดีจะรอจนตัวหนังสือสุดท้าย

ซึ่งรับรองว่าได้อิ่มเอมใจกันแน่นอน