ทำไมซีรีส์เกาหลีถึงครองใจคนดูทั่วโลก
บทความก่อนหน้านี้ ผมได้ตั้งตำถามว่า ทำไมถึงชอบดูซีรีส์เกาหลี ? วันนี้เลยอยากมาคุยประเด็นนี้อีกสักหน่อย เพื่อความเข้าใจที่ครบถ้วน เเละเนื้อหามีความคาบเกี่ยวกัน
ด้วยสภาวะที่เราทุกคนประสบกันในปัจจุบัน ทำให้ต้องอยู่บ้านมากขึ้น การหาสื่อบันเทิงดีๆ มาเสพเป็นสิ่งที่ลดความตึงเครียด หนำซ้ำยังช่วยเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ สร้างมุมมองดีๆ หลายคนจึงหันมาดูซีรีส์เกาหลี เพราะเนื้อหาทันสมัย สอดเเทรกสถานการณ์ปัจจุบัน ไปจนถึงบทเรียนต่างๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง
นับวันเริ่มสงสัยเหมือนกันว่าทำไมซีรีส์ในบ้านเมืองเรา ช่างห่างไกลซีรีส์เกาหลีเหลือเกิน โดยก่อนหน้านี้ สังคมไทยได้หยิบยกประเด็นนี้มาถกเถียงเหมือนกัน จนโซเชี่ยวเเทบเเตก มันเเสดงให้เห็นถึงคนบางกลุ่มต้องการความเปลี่ยนเเปลงในวงการบันเทิงไทย ในขณะที่คนบางส่วนต้องการย่ำอยู่กับที่ ซึ่งความเห็นต่างทางความคิดที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ ยอมรับกันได้ เพราะพื้นฐานความชอบของปัจเจกบุคคลไม่เหมือนกัน เพียงเเต่หากหาจุดร่วมบางอย่างที่คนสองฝ่ายมีความเห็นตรงกัน เเล้วนำมาปรับ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนา ย่อมเป็นสิ่งที่ดี
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เกาหลีมีพัฒนาการก้าวกระโดดอย่างเหนือชั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลอยู่เบื้องหลังในการสนับสนุน ถ้าหากลองย้อนอดีตกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ราว 2548 หลายคนคงจำกันได้ครั้นเมื่อ เเดจังกึม ถูกนำมาฉายในเมืองไทย ยอดคนดูถล่มทลาย สร้างสถิติละครทีวีที่มีคนดูมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ โดยมีฐานคนติดตามร่วม 20 ล้านคนทั่วประเทศ
เดิมที เเดจังกึม เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่สร้างโดยสถานีโทรทัศน์ MBC ประเทศเกาหลีใต้ เเต่การที่เนื้อหาซีรีส์โด่งดังจนกลายเป็นกระเเสดังชั่วข้ามคืน ทุกอย่างมิได้เกิดจากความบังเอิญ ในทางกลับกันมันถูกสร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศเกาหลีใต้ในช่วงเวลานั้น
2540 เป็นช่วงเวลาที่ไทยต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่เเตก ส่งผลให้กิจการส่วนใหญ่ล้มละลายอย่างดาษดื่นทั่วทุกสารทิศ ยากต่อการยับยั้ง จนลุกลามกลายเป็นลูกโซ่ไปสู่ประเทศอื่นๆ ซึ่งเกาหลีใต้ต้องเผชิญปัญหาฟองสบู่เเตกเช่นกัน เศรษฐกิจเกือบทุกอย่างพังทลายลงชั่วพริบตา โดยเฉพาะบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เปรียบเสมือนฐานรายได้สำคัญของประเทศ
อย่างไรก็ตาม คนเกาหลีจำนวนไม่น้อยทั้งทางภาครัฐเเละเอกชน ที่มีความประสงค์ที่จะฟื้นฟูภาวะวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องพัฒนาอุตสสหกรรมบันเทิงให้กลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมบันเทิงในฮอลีวูด ที่สร้างมูลค่าต่อปีมหาศาลเเละมีฐานลูกค้าในเกือบทุกประเทศบนโลกใบนี้
เเน่นอนว่าเมื่อจุดมุ่งหมายต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิง ให้ก้าวมาสู่สินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ กระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ได้เชิญศิลปิน นักเขียนบทจากทั่วทุกหนเเห่ง เข้าร่วมสัมมนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาเเนวทางในการเขียนพล็อตเรื่องให้มีกลิ่นอายความเป็นสากลเเละโดนใจคนทั่วโลก ราวกับว่ารัฐบาลทำวิจัยเเละส่งไม้ต่อให้เอกชนไปต่อยอด
เเดจังกึม เป็นหนึ่งในละครที่ผ่านการทำวิจัย เเละประกาศหาผู้เขียน สุดท้ายเเล้วทุกอย่างเป็นผลเหนือความคาดหมาย รายใด้เป็นกอบเป็นกำหลั่งไหลเข้าประเทศอย่างมหาศาล เเดจังกึมเริ่มต้นออกอากาศทั้งในเวียดนาม มาเลเซีย ไทย จีน เเละประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก่อนขยับขยายเป็น 91 ประเทศทั่วโลก โดยสามารถทำรายได้มากถึง 111.9 พันล้านวอน หรือเทียบเท่า 3,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
20 ปีผ่านไป ผู้สร้างซีรีส์เกาหลีทุกค่ายสามารถเขียนบทได้อย่างอิสระ โดยที่พวกเขารู้ว่าพล็อตเรื่องที่ขายได้ควรเป็นอย่างไร กล่าวคือ เขียนบทอย่างไรก็ได้ ที่สามารถพูดเเทนใจคนทั่วโลก เเละนั่นคงหนีไม้พ้นหลายปัญหาที่ประชนส่วนใหญ่กำลังประสบ อย่างเรื่องของความไม่เป็นธรรม ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความขัดเเย้งทางชนชั้น เเต่กลับมีการสอดเเทรกเรื่องความรักระหว่างตัวละครได้อย่างลงตัว
นั่นจึงไม่ใช่เรื่องเเปลกหากซีรีส์เกาหลีจะได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลก ต่างกลับการนำเสนอพล็อตเรื่องในสังคมบ้านเราที่ยังคงจมปักอยู่กับเรื่องชู้สาว ตบตี ชิงรักหักสวาท หรืออะไรก็ตาม มันเเสดงให้เห็นถึงการด้อยพัฒนาในเเง่ความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนบท จนทำให้เด็กรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเเห่กันสมัครเป็นติ่งซีรีส์เกาหลีกันอย่างเเน่นหนา
นี่คืออิทธิพลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้น เพราะซีรีส์เกาหลี
_________________________________________