สัปดาห์นี้ ดูเหมือนวันหยุดจะทำให้หนังรอบสื่อต้องเบียดเสียดกันอยู่ในวันๆ เดียว ซึ่งก็ส่งผลทำให้ต้องเลือก และมันก็ตกลงมาที่หนังเรื่องนี้ Nobody ชื่อไทย คนธรรมดานรกเรียกพี่ ภาพยนตร์แอคชั่นสุดระหำ่ที่เขียนบทโดย Derek Kolstad/เดเร็ค โคลสแตด คนที่เขียนบทหนัง John Wick มาทุกภาคนั้นแหละครับ

และครั้งนี้ ผู้ที่รับหน้าที่กำกับ ตกเป็นของ Ilya Naishuller/อิเลีย ไนซูลเลอร์ เจ้าของผลงาน Hardcore Henry ในปี 2015 ไม่พอ ยังได้นักแสดงรางวัล Primetime Emmy Awards อย่าง Christopher Lloyd/คริสโตเฟอร์ ลอยด์ มารับบทคุณพ่อของฮัตช์ และนักร้องนักแสดงมากความสามารถ RZA/ริซซา รับบทน้องชายของฮัตช์
เห็นแค่ตัวอย่างก็ชักชวนให้อยากเข้าไปชมแล้วล่ะ
เรื่องย่อหนัง ‘Nobody’
เรื่องมันเริ่มที่ครอบครัวๆ หนึ่ง ที่มีทั้งพ่อ ฮัตช์ แมนเซลล์ (Bob Odenkirk/บ็อบโอเดนเคิร์ค จากหนังเรื่อง Little Women, Nebraska ซีรีส์เรื่อง Breaking Bad และ Better Call Saul) แม่ เบ็คก้า (Connie Nielsen/คอนนี่ นีลเซ็น จากหนังเรื่อง Wonder Woman, Gladiator และ Justice League) ลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก สถานการณ์ของพ่อในครอบครัวนี้ไม่ค่อยจะดีนัก โดยเฉพาะเมื่อมีสองโจรเข้าบ้านมาปล้นไปได้เพียงเงินไม่กี่เหรียญกับนาฬิกาเก่าๆ พอดีว่าฮัตช์ดันปล่อยโจรไป แถมยังปล่อยให้ลูกชายถูกโจรต่อยอีก เขาแทบไม่ทำอะไรเลยเพื่อปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน
นั่นแหละลูกชายและภรรยาเลยเริ่มจะหมางเมิน
แต่แล้ววันหนึ่ง ฮัตช์ก็ดันไปเหยียบจมูกยูเลียน (Aleksey SerebryakoV จากหนังเรื่อง Leviathan และ Van Goghs) มาเฟียรัสเซียเข้า งานนี้จึงโดนหนัก จัดเล็กๆ ไม่พอ จัดมาใหญ่ๆ เลยทีนี้ แน่นอนว่า ฮัตซ์ผู้มีเบื้องหลังไม่ธรรมดาอย่างปากบอก ย่อมจะต้องจัดเต็มรับมืออย่างสาสมเช่นกัน
นอกจากนี้ ฮัตช์มีพ่ออยู่ในเนิร์สเซอรี่ เดวิด แมนเซลล์ (Christopher Lloyd/คริสโตเฟอร์ ลอยด์ จากหนังเรื่อง Back to the Future) แล้วก็ยังมี แฮร์รี่ แมนเซลล์ พี่น้องผิวสีอยู่อีกคน (RZA / ริซซาจากหนังเรื่อง Mr. Right, ciugno 2 lla: G.I. Joe: Retaliation)
ซึ่งต้องขอบอกว่า พ่อของฮัตซ์เฟี้ยวมากเลยนะครับ
รีวิวหนัง ‘คนธรรมดานรกเรียกพี่’
ที่จริงชีวิตของสัตช์ก็เป็นคนธรรมดาจริงๆ นะ ชีวิตของเขาไม่มีอะไรเลย ทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวัน แต่แน่ใจเหรอว่า เขาเป็นธรรมดาจริงๆ อย่างที่เขาบอกเรางั้นเหรอ ไม่อย่างแน่นอน เพราะชีวิตสิบสองที่เคยทำงานในองค์กรตัวย่อสามตัวมา บวกกับได้ยินคำพูดเพียงไม่กี่คำของคนที่เขารัก ทำให้เขาดึงตัวตนที่ฝังเงียบมานานกลับขึ้นมา…อีกครั้ง
ชอบในกลวิธีการตัดและใส่ดนตรีประกอบ มันเฟี้ยวดี!
ดูท่าทางมือตัดต่อจะเฟี้ยวไม่ใช่เล่น และดูจะสนุกมันมีกับการเล่าเรื่องมาก ทั้งยังมีรสนิยมในการเลือกเพลงมาประกอบไม่น้อย ทำให้หนังที่มีแต่ฉากโหดๆ สร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้มาก ทำให้ฉากธรรมดาๆ อย่างการเล่าเรื่องที่ไม่ต้องใช้บทพูด ออกมามีสีสันน่าสนใจ
การบอกเล่าชีวิตของคนธรรมดาที่แต่ละวันล้วนจำเจ แถมมีมุกพอขำๆ จัดว่ากวนตีนใช้ได้ เท่าที่เห็น คนตัดต่อเลือกใช้ช็อตเล็กสั้นๆ ในการเล่าเรื่องอยู่หลายหน ไม่เวิ่นเว้อและบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ดี
ในส่วนของฉากบู๊ นอกจากมุมกล้องที่ชวนรู้สึกตื่นเต้นเหมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์แล้ว ก็ยังมีความกวนโอ๊ยด้วยการใช้เพลงประกอบแบบโซลแจ๊สมาใช้ บ้างก็เล่นฉากสโลว์โมชั่นผสมเพลงเอื่อย คือลีลาหลากหลาย เหมือนมันมือจริงๆ แหละ
ฉากบู๊แอคชั่น จัดเต็มความโหด ดูไป หน้าเหยเกไป!
เอาจริงๆ แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังโปรเจกต์พันล้านซีจีอลังการ แต่ยังเหมาะจะเข้าไปดูในโรง เพราะความจอใหญ่บวกกับมุมกล้องและกลวิธีการตัดต่อ จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ความโหดของฉากการต่อสู้ อาจทำให้ร้องโดยไม่ทันรู้ตัว หน้าเหยเกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ละช็อตจัดความโหดมาให้แบบเนื้อๆ เน้นๆ สำหรับใครที่โหยหามาเนิ่นนาน หนังเรื่องจัดเต็มให้อย่างไม่กั๊กเหลือให้กับหนังเรื่องไหน

เป็นหนังที่ล้อเลียนสไตล์ของ John Wick ไหม? เท่าที่ดูก็ถือว่าใช่อยู่ ครั้งนี้ไม่มีหมา แต่ว่าเป็นแมว แถมพระเอกก็หาใช่คนธรรมดาไม่ เขามีอดีตที่กลบฝังไว้ แต่เพราะถูกสะกิดนิดเดียว และบังเอิญไปอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้อยากระบาย
สุดท้าย มันบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่
แถมยังเซอร์วิสคนดูมากมาย มีทั้งฉากไล่ล่ากันบนท้องถนนด้วยรถรุ่นเก๋า การจัดเตรียมกับดักอาวุธที่ทำให้การสังหารดูโหดดิบ สมรภูมิที่ใหญ่โตขึ้นเพื่อจัดการให้สิ้นซาก การรวมพลังกันเพื่อรับมือแก๊งมาเฟียรัสเซียเป็นโขยง งานนี้ ทำให้เราได้อึ้ง/ทึ่ง/ฮากับคุณปู่ Christopher Lloyd แก่แต่เก๋ของจริง
ไม่บันเทิงกับหนังเรื่องนี้ก็คงเรียกได้ว่า ‘ตายด้าน’ ไปเรียบร้อยแล้ว

จะเรียกว่าหนังตลกร้ายก็ใช่อยู่ อย่างการใส่เหตุผลแรงจูงใจเล็กๆ ที่ทำให้คนเก็บกดออกไประบายอารมณ์จนกลายเป็นเรื่องนั่นก็ใช่ บางจุดต้องใช้การอ่านนิดหน่อยจึงจะได้เรียกหัวเราะตามมา กลายเป็นหนังที่ได้ทั้งความโหด มัน ระหำ่ ไม่พอ ยังได้เสียงหัวเราะเพิ่มเข้ามาด้วย เหมือนคนเขียนบทเก็บกดที่ไม่ได้ใช้มุกนี้ในหนังเรื่องก่อนๆ เลยมาระบายจัดหนักเอาในหนังเรื่องเดียว
ถ้าถามว่าตอนจบ ตอนมี Closing Credit (ที่ใครๆ ก็เรียกว่า End Credit) มีฉากแถมมั้ย? คำตอบก็คือ ‘มี!’แต่จะมาแค่ฉากเดียว ช่วงกลางเครดิตหลังจากนั้น ผมก็ลองรอคอยต่ออีกนิด ปรากฏว่า ไม่มีมาอีกเลยครับ