Zack Snyder ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับผู้โด่งดังที่มีฐานแฟนคลับเป็นของตัวเอง เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะผู้สร้างจักรวาล DC ยุคล่าสุดด้วยการกำกับ Man of Steel (2013), Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) และ Zack Snyder’s Justice League (2021) แต่ตอนนี้เขาได้แยกทางกับ DC และไปร่วมงานกับทาง Netflix แทนแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังมีแผนที่จะสร้างจักรวาลภาพยนตร์ใหม่ขึ้นมา โดยเขาได้ออกมาเผยว่าเขาจะทำการสร้างให้ Rebel Moon ที่เขาทำกับ Netflix ให้กลายเป็นแฟรนไชส์ขนาดใหญ่
เมื่อไม่นานมานี้ Zack Snyder ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งใหม่กับทางนิตยสาร Empire เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ Rebel Moon ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาที่กำลังจะเปิดตัวออกมาทาง Netflix ในปลายนี้ ซึ่งผู้กำกับได้เผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล โดยได้กล่าวว่านอกจากภาพยนตร์ 2 เรื่องที่วางไว้ ได้แก่ Rebel Moon และ Rebel Moon: Part 2 แล้วนั้น แฟรนไชส์นี้จะยังสามารถต่อยอดไปเป็นซีรีส์ภาคแยกได้อีกด้วย อ่านคำพูดของเขาได้ด้านล่าง
เมื่อผมนำเรื่องนี้ไปเสนอที่ Netflix ขนาดเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขาพูดว่า ‘อืม มันจะใหญ่แค่ไหน มีหนังกี่เรื่อง’ นั่นทำให้ผมตอบกลับไปว่า ‘โอเค ถ้าเราทำสิ่งนี้จริงๆ เราสามารถกัดฟันของเราให้ลึกลงไปในเรื่องนี้ได้ เรายังไม่เห็นว่าเราจะไปได้สุดที่ตรงไหน
ในบทสัมภาษณ์เดียวกันนี้ Zack Snyder ยังได้เผยอีกว่าเขามีหนังสือความหนา 450 หน้าสำหรับแฟรนไชส์ Rebel Moon เช่นเดียวกับไทม์ไลน์ที่จะถูกยืดออกไป และหลังภาพยนตร์ Netflix จำนวน 2 เรื่องนั้นมันเพียงพอแล้วที่จะสามารถเล่าเรื่องไปต่อได้ในซีรีส์ภาคแยก หลังจากนั้นเขาก็จะพาเราไปท่องโลกนี้แบบลงลึกอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องที่ 3 โดย Snyder ได้อธิบายว่า
ดวงจันทร์ของกบฏ (Rebel Moon) ไม่ใช่ดวงจันทร์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ ชื่อเรื่องเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น แต่มันจะมีดาวเคราะห์ชื่อVanna และ Vanna คือดวงจันทร์กบฏ มันไม่ได้อยู่ในช็อตเดียวของหนังเรื่องนี้!