แม้ว่า อาจจะไม่ได้เป็นเกมที่ดูมุทะลุดุดัน เหมือนยุคของเยอร์เก้น คล็อปป์ ที่สร้างความหวาดเสียวและตื่นเต้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น การยิงประตูคู่แข่ง หรือ การเสียประตูให้คู่แข่ง

แต่ในยุคนี้ที่ยังสร้างฟุตบอลที่ยังเอ็นเตอร์เทน คนดูได้อย่างสนุกสนาน เพียงแต่ มันมีความยืดหยุ่น และ ความชัวร์ มากขึ้นกว่าเดิม

การสร้างเกมที่รู้จักดึงจังหวะ และแหย่ให้คู่แข่ง เพรสซิ่งเข้าใส่ เพื่อทีมหาช่องว่างในการเซ็ตบอลขึ้นไป ดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น

ในความนิ่งสงบของเกม แต่อาร์เน่อ สามารถปรับสปีดความเร็วของเกมได้อย่างอันตราย เหมือนฉลามได้กลิ่นคาวเลือด ที่พร้อมจะโจมตีอย่างรวดเร็ว เมื่อผ่านพ้นครึ่งสนาม และน่ากลัวถึงขนาด สร้างความตุยให้กับคู่แข่งได้อย่างเลือดเย็นอีกต่างหากการสอดประสาน ทำชิ่งสั้นสลับยาว รวมถึง การวิ่งเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งกันในระหว่างเกม มีความหลากหลายขึ้นอย่างชัดเจน และนี่จะกลายอาวุธโจมตีคู่แข่งที่หลากหลาย และยากจะรับมือ เพราะ วิธีการที่นำมาใช้มันดูหลากหลาย ปนไปด้วยความสวยงามประกอบกันไปด้วย โดยเฉพาะ การต่อชิ่งจังหวะของ โม ซาล่าห์ ที่ฝากบอลกับเพื่อนและทำชิ่งกันอย่างแม่นยำ ขณะที่ โม ก็วิ่งไปยังจุดรับบอลที่พร้อมจะถล่มประตู น่าเสียดายที่จังหวะนั้น ไม่เป็นประตู เพราะคู่แข่งวิ่งตามประกบไม่คลาดสายตา ทำให้จับหวะจบสกอร์ไม่เกิดขึ้น เราได้เห็นความเข้าใจเกมของกุนซือคนใหม่ มากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อทุกคนช่วยกันเล่นได้ดี ทีมเวิร์คยอดเยี่ยม ก็จะทำให้นักเตะแต่ละคน ดูมีความมั่นใจและเล่นฟุบอลกันได้ดหากหลายระบบ

อาร์เน่อ ยอมรับว่า นี่ยังไม่ใช่จุดที่ดีที่สุด และยังต้องพัฒนากันต่อไป แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ทีม ยังเก็บชัยชนะได้ หากทุกอย่างลงตัว และนักเตะทุกคนเข้าใจระบบอย่างลงตัวแล้วเราจะได้เห็นยุคใหม่ ที่ไฉไลกว่าเดิมในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน