แฟนๆส่วนใหญ่พลาดบทบาทรับเชิญลับของ Michael Bay ใน Bad Boys: Ride or Die
แฟนๆส่วนใหญ่พลาดบทบาทรับเชิญลับของ Michael Bay ใน Bad Boys: Ride or Die เป็นเวลากว่าสามทศวรรษที่แฟรนไชส์ตลกสุดตื่นเต้น Bad Boys ได้สร้างเสียงหัวเราะและความบันเทิงให้กับผู้ชมทั่วโลก ด้วยดาราดังอย่างวิลล์ สมิธและมาร์ติน ลอว์เรนซ์ ที่ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นทีมในฝันของฮอลลีวูด ซีรีส์สุดยิ่งใหญ่นี้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1995 โดยมีไมเคิล เบย์ ผู้กำกับ ซึ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในขณะนั้นที่ครองอุตสาหกรรมด้วยผลงานฮิตอย่างอาร์มาเกดดอนและภาพยนตร์ Transformers ที่ประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน
เบย์กำกับทั้ง Bad Boys และภาคต่อ Bad Boys II ในปี 2003 ก่อนจะส่งต่อผลงานให้กับ Adil และ Bilall ผู้สร้างภาพยนตร์สำหรับภาคต่ออีกสองภาค และแม้ว่าเขาอาจไม่ได้อยู่เบื้องหลังกล้อง แต่เขาก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์สุดมันส์ทั้งสองเรื่องผู้กำกับชื่อดังคนนี้ได้ปรากฏตัวสั้นๆ ในสามจากสี่ภาคของแฟรนไชส์นี้แม้ว่าแฟนๆ ที่มีสายตาแหลมคมอาจพลาดการปรากฏตัวล่าสุดของเบย์ในภาพยนตร์ฮิตBad Boys: Ride or Die ที่ออกฉายในปี 2024 ก็ตาม มาสำรวจบทบาทรับเชิญที่ซ่อนอยู่ของไมเคิล เบย์กัน
Michael Bay เป็นที่รู้จักจากความชื่นชอบในงานสร้างที่มีงบประมาณสูง การระเบิดที่เร้าใจ และภาพที่สวยงามมีสไตล์ Michael Bay ได้แสดงแนวทางการสร้างภาพยนตร์อันโดดเด่น ของเขา เมื่อเขาเริ่มกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 1995 เรื่อง Bad Boys ซึ่งเป็นภาคแรกในแฟรนไชส์ที่แฟนๆ ชื่นชอบ หลังจากประสบความสำเร็จในการถ่ายทำมิวสิควิดีโอและโฆษณาในช่วงต้นทศวรรษ 1990 Bay ก็ดึงดูดความสนใจของ Don Simpson และ Jerry Bruckheimer โปรดิวเซอร์ ซึ่งติดต่อให้ผู้กำกับที่มีความทะเยอทะยานคนนี้มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์แนวแอคชั่นคอมเมดี้ และออกเดินทางไปถ่ายทำตามท้องถนนในไมอามี
Bad Boys กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดในช่วงซัมเมอร์และทำรายได้ 141 ล้านเหรียญสหรัฐจากงบประมาณ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ และถึงแม้ว่าจะได้รับกระแสตอบรับจากนักวิจารณ์ที่หลากหลาย แต่ก็สามารถดึงดูดผู้ชมทั่วโลกได้สำเร็จ และยังช่วยให้วิลล์ สมิธ นักแสดงนำจากทีวีกลายมาเป็นพระเอกในฮอลลีวูดได้สำเร็จอีกด้วย ความสำเร็จทางการเงินของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เบย์และบรัคไฮเมอร์ได้ร่วมงานกันอย่างเหนียวแน่น และช่วยปูทางไปสู่ภาคต่อที่ออกฉายในอีกแปดปีต่อมา ซึ่งก็คือ Bad Boys II ในปี 2003
Bad Boys II ไม่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์เช่นเดียวกับภาคก่อน แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ได้ โดยได้รับคะแนน CinemaScore ระดับ A และทำรายได้มากกว่าภาคแรกถึง 273 ล้านเหรียญ แม้ว่าเบย์จะไม่ได้กลับมาอีกครั้งหลังจาก 17 ปีใน Bad Boys for Life ที่ทุกคนรอคอยมานาน แต่กลับมอบตำแหน่งผู้กำกับให้กับ Adil และ Bilall ผู้กำกับชื่อดังคนนี้ก็ได้ปรากฏตัวในแบบที่คาดไม่ถึงอย่างน่าประทับใจ โดยปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์และสานต่อประเพณีการปรากฏตัวในแฟรนไชส์นี้
ก่อนที่เบย์จะกลับมาสู่แฟรนไชส์ที่สร้างความฮือฮานี้ อีกครั้งด้วยบทบาท รับเชิญสั้นๆ ใน Bad Boys: Ride or Die แฟนๆ ที่มีสายตาเฉียบแหลมอาจจำได้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าในการปรากฏตัวสั้นๆ ในซีรีส์ เริ่มตั้งแต่ใน Bad Boys II เมื่อเขารับบทเป็นคนขับรถที่ถูกมาร์คัส (ลอว์เรนซ์) และไมค์ (สมิธ) หยุดขณะที่พวกเขากำลังพยายามจี้ยานพาหนะ ในแบบฉบับของไมค์ โลว์รีย์ที่แท้จริงเขาต่อว่ามาร์คัสอย่างตลกๆ ที่เลือกไม่ดี และบอกให้เขาหารถที่ดีกว่าเพื่อไล่ล่าอาชญากรเบย์กลับมาอีกครั้งในBad Boys for Lifeโดยรับบทรับเชิญในบทบาทพิธีกรงานแต่งงานของเมแกนและเรจจี้ซึ่งเน้นมากขึ้นเมื่ออดิลและบิลัลแสดงความเคารพต่อผู้กำกับคนแรกของแฟรนไชส์
ข้ามมาสู่ Bad Boys: Ride or Die ในปี 2024 ซึ่งจะเห็นเบย์ขับรถปอร์เช่ที่โฉบเฉี่ยวและรวดเร็ว โดยปรากฏตัวสั้นๆ ในช่วงครึ่งแรกของภาพยนตร์แอคชั่นสุดมันส์เรื่องนี้ หลังจากที่มีอาการหัวใจวายเล็กน้อยและเข้าสู่ภาวะโคม่า มาร์คัสก็ตื่นขึ้นพร้อมกับมุมมองใหม่ต่อชีวิตและเชื่อว่าเขาไม่สามารถถูกฆ่าได้ เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีของเขาให้ไมค์เห็น เขาจึงขับรถออกนอกถนนเพื่อสาธิตให้เพื่อนที่ไม่เชื่อของเขาดู แน่นอนว่าไมค์ถูกบังคับให้หยุดรถหลายคันไม่ให้พุ่งชนคู่หูที่รู้แจ้งของเขา โดยโบกมือไล่รถหลายคัน รวมถึงคันหนึ่งที่เป็นของตัวละครของเบย์ด้วย
หลังจากเกือบจะทำให้มาร์คัสเสียชีวิตด้วยรถปอร์เช่สีดำของเขา เบย์ผู้โกรธจัดก็อดไม่ได้ที่จะมองดูทั้งคู่ด้วยความโกรธซึ่งการแสดงรับเชิญยังถือเป็นการยกย่องแฟรนไชส์นี้และเป็นการตอกย้ำครั้งสุดท้ายของผู้กำกับในซีรีส์ที่คงอยู่ยาวนานนี้ การตัดสินใจให้เบย์ขับรถปอร์เช่ถือเป็นสิ่งที่มีความหมายมาก เนื่องจากรถสปอร์ตเป็นรถที่ไมค์เลือกใช้และมีบทบาทโดดเด่นตลอดทั้งแฟรนไชส์ในรุ่นต่างๆ โดยตัวละครสุดโปรดของเขายังแข่งรถปอร์เช่สุดหรูในภาคที่สี่อีกด้วย
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่แฟรนไชส์ Bad Boys ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความบันเทิงได้ดึงดูดแฟนๆ ตัวยงให้ติดตามชมและลุ้นระทึกไปกับฉากแอ็กชั่นสุดมันส์ อารมณ์ขันที่สนุกสนาน และความผูกพันที่ไม่อาจปฏิเสธได้ระหว่างวิลล์ สมิธและมาร์ติน ลอว์เรนซ์ นักแสดงนำของเรื่อง การแสดงที่มีเสน่ห์และมิตรภาพบนจอภาพยนตร์ระหว่างนักแสดงตลกในตำนานทั้งสองคนทำให้ผู้ชมกลับมาดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยผู้ชมต่างแสดงความชื่นชมและแห่กันไปที่โรงภาพยนตร์ทุกครั้งที่มีภาพยนตร์ใหม่เข้าฉาย
Bad Boys: Ride or Die กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินที่ได้รับการรับรองตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 7 มิถุนายน 2024 โดยผู้ชมที่ติดตามมานานต่างเพลิดเพลินไปกับการกลับมาของตัวละครที่แฟนๆ ชื่นชอบอย่าง Reggie Norman (เดนนิส แมคโดนัลด์) และกัปตันคอนราด ฮาวเวิร์ด (โจ แพนโตเลียโน) และชื่นชมที่แฟรนไชส์นี้ไม่เคยล้มเหลวในการเสิร์ฟความตื่นเต้นเกินจริงและการโต้ตอบที่ตลกขบขัน ซีรีส์นี้ยังคงเป็นที่คิดถึงและเป็นที่ชื่นชมสำหรับผู้ชมแม้ว่าจะผ่านมาสามทศวรรษแล้ว โดยพิสูจน์ได้จากรายได้ 404 ล้านเหรียญสหรัฐของภาคล่าสุดและคะแนน CinemaScore ระดับ A และความสำเร็จที่ยาวนานส่วนใหญ่มาจากการมีส่วนสนับสนุนที่เป็นเอกลักษณ์ของไมเคิล เบย์และวิธีการเล่าเรื่องที่โดดเด่น คุณสมบัติที่น่าดึงดูดซึ่งยังคงเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของแฟรนไชส์ สตรีม Bad Boys: Ride or Die บน Netflix
<< รับชมหนังดี ซีรีส์ดัง เฉลี่ยเพียงแค่วันละ 10 บาท ที่ inwiptv >
