เกริ่นนำ
ในวันที่สังคมทั่วโลกยังคงถกปัญหาความเหลื่อมล้ำกันในหลายประเด็น สื่อภาพยนตร์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการนำเสนอสิ่งที่เกิดขึ้นจริงผ่านการอุปมาอุปไมย ความโหดร้ายของโครงสร้างที่กำลังบั่นทอนการชีวิตและขวัญกำลังใจในการดำเนินคือหัวใจสำคัญของการนำเสนอสื่อผ่านภาพยนตร์เสมอ วันนี้จะย้อนเจาะลึกกับภาพยนตร์เรื่อง The Platform เมื่อปี 2019 ว่าเรื่องนี้ล้วงลึกความโหดเหี้ยมของระบบมากเพียงใด และสัญลักษณ์ต่างๆ ในภาพยนตร์หมายถึงอะไรในสังคมบ้าง
เรื่องย่อ
แท่นลำเลียงอาหารในอาคารแนวตั้งจะเลื่อนจากบนลงล่าง ผู้อาศัยอยู่เบื้องบนได้สวาปามอย่างจุใจ ปล่อยให้ผู้อาศัยอยู่เบื้องล่างหิวโหยและสิ้นหวัง จนกลายเป็นความอัดอั้นที่รอวันปะทุ
เริ่มมาชั้น 48 โดยที่พระเอกอย่าง Goreng ต้องอยู่ในหลุมชั้น 48 ร่วมชั้นกับ Trimagasi ชายชราผู้หนึ่ง ซึ่งอธิบายว่าหลุมนี้ที่พระเอกอาสามาเองนั้นมีระบบกลไกการแบ่งทรัพยากรจากชั้นบนสู่ชั้นล่าง และการอยู่ชั้นนี้ก็เหมือนชั้นที่พอรับได้ เดี๋ยวจะมีอาหารเหลือพอให้ประทังชีวิตหรือแม้กระทั่งกอบโกยกินเสียจนอิ่มแปล้ เรื่องที่สะท้อนให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าจะมีโอกาสได้กินก็ต่อเมื่อมีคนหยิบยื่นโอกาสเป็นทรัพยากรของเหลือ อีกอย่างหนึ่งคือช่วงเวลาอันจำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในระบบสังคมหนึ่งควบคุมมนุษย์แม้กระทั่งการกิน เรามีมื้ออาหารและข้อจำกัดด้านเวลา เราจะกินได้เฉพาะตอนไฟเขียวและไม่สามารถจะกินนอกเหนือเวลาได้อย่างอิสระ
แน่นอนว่าเมื่อมีการสลับชนชั้นกันไปมาความเห็นแก่ตัวจึงเกิดขึ้น ในเมื่อท้องหิว ช่วงเวลาจำกัด และปัจจัยมากมายปรากฏขึ้น ทางเลือกของคนมีโอกาสก็มักกอบโกยสิ่งนั้นให้คุ้มค่าที่สุดเสมอ มันจึงกลายเป็นความเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้เกิดจากปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่รวมถึงการที่ระบบสร้างแพตเทิร์นอันน่าสยดสยองนี้ขึ้น บางครั้งมันทำให้คนแต่ละชั้นติดกับดักความคิด ไม่สามารถคิดนอกกรอบหรือเปลี่ยนอะไรได้แล้ว
ในเวลาที่คนตกอยู่ชั้นย่ำแย่ (ร่วงลงมาจากชั้นที่สูงกว่า) เปรียบเสมือนชีวิตที่อาจพลิกผันกลายเป็นชนชั้นรองในสังคมได้โดยฉับพลัน แทนที่จะค่อยๆ ร่วมมือกัน ระบบกลับใช้ความเป็นปัจเจกบุคคลในการรักษาความเหลื่อมล้ำไว้อย่างชัดเจน คนไม่สามารถส่งเสียงขอความเท่าเทียมได้ ทรัพยากรอันจำกัดจึงกลายเป็นของล้ำค่า ผู้คนแก่งแย่งชิงดีกันเอง ฆ่ากันเอง แย่งอาหารกันเอง ทั้งหมดเกิดขึ้นในสังคมจริง และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ใช้อาหารเลิศหรูบนโต๊ะที่หมดลงในชั้นล่างๆ เป็นสื่อกลางอธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจน มันโหดร้ายถึงขนาดว่าคนที่ร่วงลงมาในชนชั้นล่างรู้ตัวว่าข้างบนนั้นหิวกระหายเสียจนมูมมามเพียงใด พวกเขาเลยตัดสินใจปลิดชีพตัวเองก่อนจะเริ่มสู้เกมชีวิตนี้ในชนชั้นที่ต่ำกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ต่อมาการลืมตามาพร้อมกับการอยู่ชั้นล่าง 200 นิดๆ ทำให้ผู้คัดเลือกคน เพื่อนร่วมห้องของพระเอกตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ เพื่อสละทรัพยากรบางอย่าง เรื่องนี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนชีวิตที่คนระดับล่างต้องสละตัวเองตลอดเวลาเพื่อทรัพยากรของคนรอบข้าง และการสละนี้ก็ทำได้เพียงยืดเวลาต่อชีวิต ไม่ได้ส่งผลให้ใครรู้สึกรู้สาอะไร ระบบก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ยิ่งดำดิ่งไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งเจอแต่สภาพความโหดร้าย ห่อเหี่ยว ยิ่งต่ำต้อย เวลาการกินก็น้อยลง
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงสะท้อนบทสรุปของความเหลื่อมล้ำ การเปลี่ยนแปลง ความโหดร้ายของระบบ ธรรมชาติของมนุษย์ และสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านการแบ่งปันทรัพยากรในโลกแห่งความเป็นจริง แม้จะเป็นภาพยนตร์ความยาวเพียง 94 นาทีที่ดำเนินเรื่องอยู่แค่ห้องแคบทรงสี่เหลี่ยม แต่รับประกันเลยว่าโลกแคบๆ นี้อธิบายบริบทของสังคมภายนอกที่เราใช้ชีวิตกันอยู่ทุกวันได้อย่างเข้มข้นและกดดันมาก นับเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องบนเน็ตฟลิกซ์ที่เราไม่อยากให้ใครพลาดเลยจริงๆ
Author : AdMob
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.com>>