รีวิวVagabond | เจาะเเผนลับเครือข่ายนรก จากอุบัติเครื่องบินตกสู่การล่าอำนาจระดับชาติ

หากพูดถึงซีรีส์แอ็กชันสืบสวนที่ทั้งเข้มข้นและซับซ้อนในระดับที่ทำให้คนดูต้องลุ้นทุกนาที Vagabond | เจาะเเผนลับเครือข่ายนรก คือหนึ่งในซีรีส์ที่ไม่อาจมองข้ามได้!!

ซีรีส์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2019 ทางช่อง SBS และ Netflix นำแสดงโดยสองนักแสดงมากฝีมือ อีซึงกิ และ แบซูจี ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจาก Gu Family Book แต่คราวนี้พวกเขาอยู่ในเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการหักหลัง การเมืองสกปรก และเครือข่ายอาชญากรรมที่ลึกกว่าที่ตาเห็น

เรื่องราวเริ่มต้นจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเครื่องบินพลเรือนตกในน่านฟ้าของโมร็อกโก คร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือ ฮุน หลานชายของ ชาดัลกอน (อีซึงกิ) สตันต์แมนหนุ่มที่เลี้ยงดูหลานเพียงลำพัง หลังจากได้รับข่าวร้าย เขาเดินทางไปยังโมร็อกโกเพื่อร่วมพิธีไว้อาลัย ทว่าความบังเอิญทำให้เขาพบเบาะแสสำคัญนั่นคือชายแปลกหน้าที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตก แต่กลับถูกไล่ล่าจากกลุ่มชายปริศนา

ความสงสัยนี้ทำให้ดัลกอนเริ่มสืบหาความจริงและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเกมอำนาจระดับชาติ เพราะแท้จริงแล้ว อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการก่อวินาศกรรมที่มีเครือข่ายองค์กรลับอยู่เบื้องหลัง

ขณะที่ดัลกอนพยายามเปิดโปงเรื่องนี้ เขาได้พบกับ โกแฮรี (แบซูจี) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) ที่แฝงตัวมาทำงานในสถานทูตเกาหลี เธอได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลครอบครัวเหยื่อจากเหตุการณ์เครื่องบินตก แต่เมื่อได้สัมผัสกับหลักฐานที่ดัลกอนพบ เธอเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตัดสินใจร่วมมือกับเขาเพื่อเปิดโปงความจริงเบื้องหลังเครือข่ายอาชญากรรมระดับชาติที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่

สิ่งที่ทำให้ Vagabond แตกต่างจากซีรีส์แอ็กชันทั่วไปคือโครงสร้างของบทที่เต็มไปด้วยการหักมุม ไม่มีใครสามารถไว้ใจใครได้เลย แม้แต่ตัวละครที่ดูเหมือนเป็นพันธมิตรก็อาจกลายเป็นศัตรูในพริบตา การเมือง การคอร์รัปชัน และการค้าขายอาวุธระดับโลกถูกถักทอเข้าด้วยกันจนคนดูต้องตั้งคำถามว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริงกันเเน่ ?

ความลึกลับและการวางแผนของฝั่งตัวร้ายถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน ตั้งแต่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน Dynamic Systems ที่ต้องการสัญญาซื้อขายเครื่องบินของกองทัพ ไปจนถึงกลุ่มผู้มีอำนาจที่พร้อมจะกำจัดทุกคนที่ขวางทาง

ที่สำคัญการพัวพันของนักการเมืองระดับสูงในรัฐบาล ทำให้เรื่องราวไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมล่าความจริง แต่กลายเป็นสงครามของอำนาจและผลประโยชน์ที่ขับเคลื่อนด้วยเลือดและชีวิตของผู้บริสุทธิ์

หนึ่งในจุดแข็งของ Vagabond คือการสร้างตัวละครที่มีมิติ ชาดัลกอน ไม่ใช่ตำรวจ นักสืบ หรือสายลับ แต่เป็นเพียงสตันต์แมนธรรมดาที่สูญเสียคนที่รักที่สุดไป การที่เขาต้องมาต่อสู้กับอำนาจที่ใหญ่เกินตัว ทำให้คนดูรู้สึกเข้าถึงและเอาใจช่วยเขาอย่างที่คน ๆ ควรได้รับ การที่เขาไม่ใช่คนที่มีทักษะเหนือมนุษย์ แต่เป็นเพียงชายที่มีความอึด ถึก และไหวพริบดี ทำให้เรื่องราวมีความสมจริงและน่าติดตามมากขึ้น

ส่วนโกแฮรี เป็นตัวละครหญิงที่มีความแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครที่ไร้พ่าย เธอเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางศีลธรรมระหว่างการทำตามหน้าที่และการยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง เคมีระหว่างเธอกับดัลกอนไม่ได้เป็นแค่เรื่องโรแมนติกผิวเผิน แต่เต็มไปด้วยความร่วมมือ ความไว้ใจ และการพึ่งพากันในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด

นอกจากนี้ ตัวละครฝั่งตัวร้าย เช่น นักการเมือง นายหน้าขายอาวุธ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ NIS ล้วนมีมิติที่ทำให้พวกเขาดูน่าเกรงขาม ไม่มีตัวร้ายที่โง่เขลา ทุกคนล้วนมีแผนสำรอง และพร้อมจะกำจัดศัตรูทันทีหากพวกเขาเป็นภัย

อ่านมาถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า…

Vagabond ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์แอ็กชันธรรมดา แต่มีโปรดักชันระดับภาพยนตร์ ฉากไล่ล่า ฉากต่อสู้ และการยิงปืน ถูกออกแบบมาอย่างสมจริงและน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะฉากในโมร็อกโกที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังสายลับระดับฮอลลีวูด การตัดต่อและการกำกับฉากแอ็กชันมีความลื่นไหล สร้างอารมณ์ร่วมได้ดี ทำให้คนดูรู้สึกถึงความระทึกและความเสี่ยงของตัวละครได้อย่างชัดเจน

แม้ว่า Vagabond จะเป็นซีรีส์ที่มีบทค่อนข้างดีตลอดทั้งเรื่อง แต่จุดอ่อนที่ทำให้หลายคนผิดหวังคือการดำเนินเรื่องในช่วงท้ายที่ทิ้งปริศนาไว้โดยไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ตอนจบที่เหมือนจะปูทางไปสู่ซีซัน 2 แต่ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ทำให้คนดูรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์

อีกจุดหนึ่งคือความซับซ้อนของเครือข่ายอาชญากรรมที่ขยายไปไกลจนบางช่วงของเรื่องอาจทำให้คนดูสับสนและรู้สึกว่าตัวละครหลักต้องต่อสู้กับอำนาจที่ใหญ่เกินกว่าพวกเขาจะเอาชนะได้จริง ๆ

หากคุณเป็นแฟนของซีรีส์แอ็กชันสืบสวนที่เต็มไปด้วยปริศนา การหักหลัง และเกมอำนาจ Vagabond คือซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาด!! มันเป็นซีรีส์ที่มีทุกองค์ประกอบของหนังแอ็กชันที่ดี ทั้งความเข้มข้นของบท โปรดักชันที่อลังการ และการแสดงที่ทรงพลังของนักแสดงนำ แม้ว่ามันจะมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่โดยรวมแล้วมันเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่สามารถตรึงคนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบตอนจบที่เคลียร์ทุกปมปริศนา Vagabond อาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด เพราะมันเปิดปลายทิ้งไว้โดยไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมจะเดินเข้าสู่โลกแห่งความลึกลับและการทรยศที่ไม่มีที่สิ้นสุดหรือไม่เเค่นั้น

Vagabond | 9️⃣.5️⃣/🔟 สนุกมากกกก เเต่ภาคต่อจะมาตอนไหนคะ 😅

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>