รีวิว Baby Ruby (2022) เมื่อชีวิตหลังคลอดไม่เป็นอย่างที่คิด
Baby Ruby (2022) เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้เล่าเรื่องของความเป็นแม่ในแบบที่สังคมมักจินตนาการถึง ไม่ว่าจะเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ความสุขที่เปี่ยมล้น หรือชีวิตที่สมบูรณ์แบบหลังจากมีลูก แต่กลับพาผู้ชมดำดิ่งไปสู่มุมที่มืดหม่นของชีวิตหลังคลอด ผ่านสายตาของโจ (Noémie Merlant) อินฟลูเอนเซอร์สาวผู้มีชีวิตที่เพียบพร้อม เธอแต่งงานกับสเปนเซอร์ (Kit Harington) และกำลังจะกลายเป็นแม่มือใหม่ แต่หลังจากให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ‘รูบี้’ ชีวิตที่เคยควบคุมได้กลับกลายเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความหวาดระแวง
ตั้งแต่ต้นเรื่อง ภาพยนตร์ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวเอกผ่านมุมกล้องที่แนบชิด สีสันและโทนภาพที่เปลี่ยนไปตามสภาวะจิตใจของโจ จากโลกที่ดูสมบูรณ์แบบไปสู่บรรยากาศที่อึดอัดและน่าหวาดกลัว ความเครียดจากการเป็นแม่มือใหม่ถูกนำเสนออย่างหนักหน่วง ทั้งความกดดันจากสังคม ความเหนื่อยล้าทางร่างกาย และสภาวะทางจิตใจที่เริ่มสั่นคลอน โจเริ่มได้ยินเสียงร้องของลูกแม้ในเวลาที่เงียบที่สุด เธอเริ่มสงสัยทุกสิ่งรอบตัว จนกระทั่งเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าความคิดของเธอนั้นจริงหรือเพียงแค่ภาพหลอน
ความน่าสนใจของ Baby Ruby ไม่ได้อยู่ที่การสร้างความระทึกขวัญแบบหนังสยองขวัญทั่วไป แต่เป็นการค่อย ๆ ขุดลึกลงไปในสภาวะจิตใจของแม่ที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (postpartum depression) ความโดดเดี่ยว และความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแปลกหน้าในชีวิตของตัวเอง
หนังทำให้คนดูสัมผัสถึงความกดดันที่ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่แยกไม่ออกระหว่างความจริงกับภาพลวงตา ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แม่หลายคนอาจเคยพบเจอ แต่ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนักในสื่อกระแสหลัก
Noémie Merlant ถ่ายทอดบทบาทของโจได้อย่างยอดเยี่ยม เธอทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความหวาดระแวง ความอ่อนล้า และความสับสนของคนที่กำลังจมหายไปในภาวะทางจิตใจที่เธอควบคุมไม่ได้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความว่างเปล่า ซึ่งทำให้ผู้ชมไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้
ในขณะที่ Kit Harington แม้จะไม่ได้มีบทบาทที่โดดเด่นมากนัก แต่ก็ช่วยสร้างสมดุลให้กับเรื่องราวในฐานะสามีที่พยายามเข้าใจแต่ก็ไม่อาจเข้าถึงโลกของภรรยาได้
อย่างไรก็ดี จังหวะของหนังค่อนข้างช้าและใช้บรรยากาศในการสร้างอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุการณ์ที่หวือหวา นี่อาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ชมบางกลุ่มที่คาดหวังความตื่นเต้นแบบหนังระทึกขวัญทั่วไป แต่สำหรับคนที่ชอบหนังจิตวิทยาที่ค่อย ๆ แทรกซึมความรู้สึกเข้ามาทีละน้อย หนังเรื่องนี้สามารถสร้างความอึดอัดและความอินไปกับตัวละครได้เป็นอย่างดี
นอกจากการนำเสนอภาวะซึมเศร้าหลังคลอดแล้ว Baby Ruby ยังตั้งคำถามถึงความกดดันทางสังคมที่มีต่อแม่คนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังให้เธอรักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข ควบคุมทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ หรือแม้กระทั่งการต้องซ่อนความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอของตัวเองไว้เพื่อรักษาภาพลักษณ์ มันเเสดงให้เห็นว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องที่สวยงามเสมอไป และบางครั้งอาจกลายเป็นฝันร้ายที่ยากจะหลุดพ้น
โดยรวมแล้ว Baby Ruby เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังและกล้าหาญในการพูดถึงประเด็นที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง มันไม่ได้เป็นหนังที่ดูง่ายหรือให้ความบันเทิงแบบหนังระทึกขวัญทั่วไป แต่เป็นหนังที่สร้างแรงกระเพื่อมทางอารมณ์และทำให้คนดูหันกลับมามองความเป็นจริงของ ‘ความเป็นแม่’ ในอีกมิติหนึ่ง สำหรับคนที่ชอบหนังที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และจิตวิทยา Baby Ruby ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
📽️ Baby Ruby (2022) | 9️⃣ / 🔟
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>