การเลือกในภาวะวิกฤต ความขัดแย้งระหว่างชีวิตของแม่และลูกในครรภ์
ไม่มีบททดสอบใดในชีวิตที่โหดร้ายไปกว่าการต้องตัดสินใจเลือกระหว่างสองชีวิตที่คุณรักที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนึ่งคือลมหายใจที่คุณใช้ชีวิตร่วมกันมา และอีกหนึ่งคือลมหายใจที่กำลังจะเริ่มต้น หากวันหนึ่งภรรยาของคุณต้องคลอดลูกในภาวะวิกฤตที่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตทั้งสองคนไว้ได้พร้อมกันและคุณในฐานะสามีถูกขอให้ ‘เลือก’ ระหว่างภรรยาหรือเด็กในท้องว่าใครจะมีโอกาสรอด คุณจะเลือกใคร ?
สถานการณ์อันน่าเจ็บปวดนี้ แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นสถานการณ์จริงในทางการแพทย์ที่เรียกว่า maternal-fetal conflict หรือความขัดแย้งระหว่างชีวิตของแม่และลูกในครรภ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนที่การช่วยชีวิตของฝ่ายหนึ่งหมายถึงการสูญเสียอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน เช่น การตกเลือดรุนแรง ภาวะครรภ์เป็นพิษ หรืออุบัติเหตุขณะตั้งครรภ์ ในวินาทีนั้น การตัดสินใจต้องทำอย่างเร่งด่วนและคำตอบจากผู้เป็นสามีอาจเปลี่ยนชะตากรรมของทั้งครอบครัวไปตลอดชีวิต
โดยหลักจริยธรรมทางการแพทย์เเล้ว แพทย์จะพยายามช่วยชีวิตทั้งแม่และเด็กอย่างสุดความสามารถ แต่หากจำเป็นต้องเลือก บ่อยครั้งที่ ‘ชีวิตของแม่’ จะได้รับการให้ความสำคัญมากกว่า ด้วยเหตุผลว่าแม่คือผู้ที่มีชีวิตอยู่แล้ว มีตัวตน มีความผูกพันกับคนรอบข้าง และยังมีโอกาสตั้งครรภ์ใหม่ได้ในอนาคตหากต้องการ ในขณะที่ทารกในครรภ์ยังไม่เคยได้ใช้ชีวิต หรืออาจอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้หากคลอดออกมาก่อนเวลาอันควร
ทั้งนี้ หากแม่มีสติและสามารถแสดงเจตจำนงได้ว่าอยากให้ช่วยลูกก่อน ความประสงค์ของเธอจะได้รับการเคารพเป็นลำดับแรก หลายกรณีที่แม่ยินยอมเสียสละชีวิตตนเองเพื่อให้ลูกได้ลืมตาดูโลก แม้ว่าจะรู้ว่าโอกาสรอดของตนเองนั้นน้อยมาก นี่คือการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และเป็นภาพสะท้อนของความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างแม่กับลูก
คำถามที่ตามมา คือ แล้วสามีควรเลือกใคร ?
นี่คือคำถามที่ไม่มีคำตอบใดถูกต้องไปเสียทั้งหมด เพราะมันขึ้นอยู่กับบริบท ความเชื่อส่วนตัว สถานะครอบครัว ความเห็นของแม่ และแม้แต่หลักศาสนา การเลือกช่วยชีวิตใครสักคนหนึ่งขณะที่ต้องปล่อยมืออีกคนไป ไม่ได้หมายความว่าคุณเลือกถูกหรือผิด แต่มันคือภาวะจำเป็นที่คุณต้องเลือกและต้องแบกรับผลของการเลือกนั้นไปตลอดชีวิต
สำหรับบางคน การเลือกแม่ คือ การรักษาความมั่นคงของครอบครัวและให้โอกาสในการมีลูกในอนาคต แต่สำหรับบางคน ลูกอาจเป็นสิ่งที่รอคอยมานาน การตัดสินใจจึงเต็มไปด้วยอารมณ์และความเชื่อส่วนบุคคล บางคู่รักจึงเลือกที่จะพูดคุยกันไว้ล่วงหน้า ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากจินตนาการ เเต่การเปิดใจพูดถึงความเป็นไปได้ในยามฉุกเฉิน อาจช่วยลดความเจ็บปวดของการตัดสินใจในอนาคตลงได้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครควรต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่หากมันเกิดขึ้นจริง การตัดสินใจใด ๆ ก็ไม่ควรถูกตัดสินจากคนนอก เพราะไม่มีใครเข้าใจความเจ็บปวด ความรัก และความสูญเสียในหัวใจของคนที่ต้องเลือกเท่ากับตัวเขาเอง
และในท้ายที่สุด แม้คำตอบจะเป็นแม่หรือลูก คนที่ถูกทิ้งไว้ให้มีชีวิตอยู่ต้องดำเนินต่อไปด้วยความทรงจำและความรักที่ไม่มีวันลบเลือน ความเจ็บปวดนั้นอาจไม่จางหาย แต่อย่างน้อยมันคือการเลือกที่เกิดจากหัวใจที่รักมากที่สุด
“… เพราะบางครั้ง ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง เพื่อให้ใครอีกคนได้มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อไป …”
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>
