รีวิว Gerald’s Game (2017) เมื่อความร้อนแรงบนเตียงกลายเป็นฝันร้ายสุดเหวอ
เอาจริง ชั้นแค่เปิด Netflix หาหนังดูก่อนนอนแบบชิล ๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่แม่งดันเจอ Gerald’s Game เข้าไป เหมือนโดนจับล็อกข้อมือไว้กับเตียงแล้วโดนเหวี่ยงไปมาด้วยความรู้สึกที่แบบ… “อะไรวะเนี่ยยย !!!” คือหนังมันเปิดมาด้วยฟีลแบบ “เอ้า !!! พี่กับพี่สาวเค้าจะไปหวานกันที่กระท่อมกลางป่าเหรอจ๊ะ” ดูเหมือนจะเผ็ดใช่มะ แต่มึง ฟ้าผ่าผัวตายเฉย โดนหักมุมตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบไวน์
เรื่องมันเป็นงี้…
เจสซี่ กับ เจอรัลด์ เป็นผัวเมียที่แบบ เอ๊ะ ชีวิตรักมันกร่อย ๆ ก็เลยจะมาเติมไฟกันหน่อย เอากุญแจมือมาล็อกเมียไว้กับเตียง แล้วเล่นบทบาทสมมติอะไรสักอย่างที่คนธรรมดาอย่างชั้นอาจไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผัวดันหัวใจวายตายไปเฉย ๆ แล้ว เจสซี่ นางก็ติดแหงกอยู่กับเตียงกลางบ้านร้าง ไม่มีคน ไม่มีมือถือ ไม่มีแม้แต่หมา (โอเค หมามา แต่มาแดกผัว…) ฟีลคือนางต้องเอาตัวรอดให้ได้ในสภาพแบบนั้น โดยที่ไม่ได้สู้กับผีหรือฆาตกร แต่ต้องสู้กับอดีตโคตรบอบช้ำในใจตัวเอง เห้ย !!! มันคือดราม่าที่มาแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยแม่
คือช่วงแรกหนังมันแอบตึง ๆ อยู่บ้าง เพราะต้องดูนางนอนดิ้นอยู่บนเตียง แต่นางไม่ได้ดิ้นธรรมดานะจ๊ะ นางคุยกับ ‘จิตใต้สำนึก’ ของตัวเอง แบบมี เจสซี่ อีกเวอร์ชันโผล่มาเล่นมุกตีแผ่ทุกอย่างในหัว แล้วแฟลชแบ็กใส่รัว ๆ ถึงอดีตอันดำมืดที่แบบดูแล้วกลืนไม่ลง นี่คือนั่งอ้าปากค้างแล้วค่อย ๆ หุบด้วยความอึ้งอะ เพราะมันไม่ใช่แค่หนังเอาตัวรอด แต่มันเป็นหนังที่เอา ‘บาดแผลในใจ’ มาฉีกโชว์แบบหน้าด้าน ๆ และเราก็แบบ…โอ้โห ชั้นไม่โอเค แต่นี่แหละคือดีย์
คาร์ล่า กุจิโน คือ นางแบกทั้งเรื่องแบบอลังการล้านแปด ทั้งติดเตียงทั้งโดนซัดอารมณ์ทางจิตใจแบบสิบคูณร้อย แล้วฉากความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิตนางมันหนักมากแม่ แต่เธอเล่นดีจนอยากส่งพวงหรีดให้ตัวละครแล้วส่งมงให้ตัวนักแสดงเลยอะ
แล้วคือ ไมค์ แฟลนากัน ผู้กำกับ เคยทำ Hush มาก่อน ก็ยังคงโชว์ความเก่งเรื่องทำหนังในที่แคบ ๆ ได้แบบอึดอัดจิกหมอนไม่หลุด ความลุ้นในรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างแก้วน้ำที่แม่งวางไว้อย่างล่อแหลม คือลุ้นยิ่งกว่าลุ้นรางวัลที่ 1
จะบอกว่าหนังมันไม่ใช่แนวผีหลอน ๆ แต่เป็นแนวจิตวิทยาสั่น ๆ ที่ดูแล้วเหมือนโดนชกเข้าหน้าเบา ๆ แล้วโดนกระทืบซ้ำด้วยความจริงของโลกที่แม่งโคตรเหี้… (พอแค่นี้ เดี๋ยวโดนแบน)
จุดเดียวที่แอบขัดใจคือช่วงท้าย ๆ มันเริ่มแบบอารมณ์ “จะเล่าก็เล่าเหอะ เอาให้จบ” ใส่มาเยอะเกิ๊น แต่พอดูจบก็โอเคนะ มันไม่แย่ แต่มันแค่ไม่พีคเท่าช่วงกลาง ๆ ที่พีคจนน้ำตาแอบซึมแบบเงียบ ๆ
Gerald’s Game เป็นหนังที่ดูแล้วไม่ได้แค่รู้สึก “เห้ย !!! เอาตัวรอดได้ไงวะ” แต่มันทำให้เราเงียบ ๆ ไปคิดกับตัวเองว่า เราแบกอะไรไว้ในใจบ้าง แล้วเราพร้อมจะปลดกุญแจตัวเองออกจากอดีตหรือยัง ?
ให้คะแนนความเดือด : 8️⃣.5️⃣ / 🔟
ให้คะแนนความสะพรึงแต่มีคลาส : 9️⃣ / 🔟
เพราะชีวิตนี้แม่งก็เหมือน เจสซี่ แหละ ติดอยู่กับอะไรสักอย่าง แล้วต้องหาทางรอดด้วยตัวเอง
ใครใจบางก็ซับน้ำตาไว้ดี ๆ แล้วเปิดดูโลด !!!
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>