slider2
slider2
previous arrow
next arrow
Forrest Gump ภาพยนตร์ที่ทำให้เรารู้ว่า “ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต”

รีวิว Forrest Gump ภาพยนตร์ที่ทำให้เรารู้ว่า “ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต”

พูดถึง Forrest Gump ทุกคนคงนึกถึง ทอม แฮงส์ ในบทหนุ่มน้อยจากอลาบามาที่อาศัยความไร้เดียงสาเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต จนกลายเป็นตำนานหนังที่หลายคนต้องพูดถึง

แม้จะผ่านมา 30 ปีแล้วก็ตาม เอาจริงๆ ก็ไม่เคยรู้สึกว่าเวลาเดินไปไวขนาดนี้เลยแฮะ ยังจำได้เลยว่าเปิดทีวีแล้วเห็น Forrest วิ่งไปวิ่งมาอย่างไม่มีท่าทีจะหยุด กับประโยคเด็ด ๆ ที่ติดหู “Life is like a box of chocolates, you never know what you’re gonna get.” (ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลตนะคะ บางทีก็ต้องมีความไม่รู้กันบ้าง)

นี่แหละค่ะ ตัวแทนของภาพยนตร์ที่เป็นทั้งที่รักและปริศนาในใจหลาย ๆ คน

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าจะพูดแบบย่อ ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตไปตามกระแสโชคชะตาไปวัน ๆ ไม่มีการวางแผนชีวิตอะไรมาก แต่กลายเป็นคนที่ผ่านเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของประวัติศาสตร์อเมริกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกครั้งที่เขาไปเจอกับเหตุการณ์ใหญ่ ๆ แค่ทำหน้าที่ของเขาไปตามที่ใจรักก็ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่บ้าง ตำนานบ้าง แล้ววันหนึ่งก็มีคนเรียกเขาว่าผู้ชายผู้ทรงพลังที่กวาดหลาย ๆ รางวัลออสการ์ไปได้ไม่รู้ตัว

ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รักของคนหลายกลุ่ม ก็คือ ความง่าย ๆ ในตัว ฟอร์เรสท์ เขาเป็นตัวละครที่ใสซื่อ ไม่ซับซ้อน ขนาดที่ว่าใครเห็นก็น่าจะหลงรักได้ง่าย ๆ และที่สำคัญที่สุด คือ เขายังมีเสน่ห์ความไร้เดียงสาแบบที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นใจ นี่แหละที่ทำให้เราติดใจเขาตั้งแต่เริ่มเรื่อง ไม่ต้องแอ๊บเยอะ ไม่ต้องทำตัวมีสไตล์อะไรเลย เน้นความเป็นธรรมชาติที่สุด

ตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก เราก็รู้สึกเหมือนกับว่า “โอ้ยยย ทำไมมันดูเหมือนหนังที่ไม่ได้พยายามจะสอนอะไรเลยอะ” แต่พอพินิจพิเคราะห์จริง ๆ ก็จะเห็นเลยว่ามันคือการบอกเราว่า “ชีวิตมันก็แค่ตามโชคชะตาไปเถอะ”

เอาจริง ๆ ฟอร์เรสท์ ก็คือคนที่ต้องการแค่ทำตามสิ่งที่เขารัก และยอมรับทุกอย่างที่เข้ามา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือแย่แค่ไหน ก็ทำไปตามที่ใจเรียกร้องแค่นั้นเอง

ส่วนที่เราชอบมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ การเล่นของ ทอม แฮงส์ ในบท ฟอร์เรสท์ เขาเล่นเป็นตัวละครที่ไม่ซับซ้อนแบบนี้ได้ดีมากกก แบบที่ทำให้เราไม่สามารถแยกเขาออกจากตัวละครได้เลยจริง ๆ ฟีลมันเหมือนคนที่รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความสุข หรือแม้แต่ความงง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ซึ่งมันทำให้เราเชื่อว่า “เฮ้ยยย คนเราก็ต้องมีทัศนคติแบบ ฟอร์เรสท์ บ้างอะ”

ใด ๆ อยากให้รู้ไว้ว่า Forrest Gump ไม่ใช่หนังที่หนักหน่วงหรือมีอะไรซับซ้อนมากมาย ถ้าจะพูดถึงในแง่ของการใช้เทคนิคการสร้างภาพ มันก็ยังคงตามแนวทางของ โรเบิร์ต เซเม็กคิส ที่ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินได้ไม่ยาก แต่บางจุดก็ยังมีเทคนิคบางอย่างที่น่าจะปรับให้มีความลื่นไหลกว่านี้ หรือจะบอกว่า เซเม็กคิส เองก็ยังต้องการโชว์เทคนิคการทำงานที่ค่อนข้างแน่นอน แต่อย่าลืมว่าในช่วงเวลานั้นมันคือการสร้างนวัตกรรมที่ไม่ธรรมดา

ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนถึงหลาย ๆ ประเด็นในสังคมเช่นเดียวกัน ถ้าเรามองให้ลึกกว่านั้น มันสอนให้เรารู้ว่าแม้ชีวิตจะมีทั้งขึ้นและลง แต่ถ้าเราทำไปตามความจริงใจของตัวเอง ก็อาจจะไปเจอกับโชคดีในที่สุด และนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่า Forrest Gump ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นบทเรียนที่ดีในชีวิตอีกด้วย

ดังนั้น ในมุมของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบการแสดงที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง พร้อมกับบทเพลงคลาสสิกที่ทำให้ชีวิตมันรู้สึกดี ๆ Forrest Gump ถือเป็นภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและแฝงไปด้วยความจริงใจได้ดีมากค่ะ

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>