รีวิว 28 Years Later การเดินทางของมนุษยชาติในโลกหลังโรคระบาดที่ไม่สิ้นสุด

โอเค มาแล้วววว สุดยอดภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอย 28 Years Later สานต่อเรื่องราวจาก 28 Days Later ภาพยนตร์ซอมบี้ที่โคตรคลาสสิค ที่อาจจะไม่ได้โหดเหี้ยมเหมือนเดิม แต่กลับมาพร้อมความแปลกใหม่ที่ชวนให้หลายคนร้อง “เอ๊ะ” ตั้งแต่เริ่มต้น

ถ้าคุณเคยดู 28 Days Later หรือ 28 Weeks Later มาแล้ว คุณอาจจะรู้จักกับโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ที่วิ่งเร็ว ๆ แบบ ทอม ครูซ สมัยยังหนุ่มหรือซอมบี้ที่ไม่ยอมหยุดโวยวายจนทั้งโลกพังกันไปข้าง แต่คราวนี้ ซอมบี้มาในเวอร์ชันใหม่ที่ไม่ใช่แค่ซอมบี้จะบุกโลก … มันยังจะบุกเข้าไปในใจคุณด้วยนะจ๊ะ ใจเริ่มไม่ค่อยดีเเล้ว 555+

ภาพยนตร์เริ่มต้นที่การย้อนกลับไปยัง Holy Island เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลในอังกฤษ ที่ถูกปิดล้อมเหมือนเป็นที่หลบภัยจากโลกภายนอกซึ่งเต็มไปด้วยซอมบี้ที่แค่คิดก็อยากจะวิ่งไปหาที่หลบซ่อนตัวแล้ว

แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ที่นี่ไม่ได้มีแต่ซอมบี้ที่วิ่งเร็ว แต่ยังมีมนุษย์ที่ยังคงอยู่ด้วยจิตใจดั้งเดิม ชุมชนบนเกาะนี้มีความเป็นมาเหมือนกลับไปสู่ยุคหิน เหมือนอยู่ในหนังสือการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความบ้าบอ แต่ก็มีอะไรให้ตื่นเต้นเชียวแหละ อืม !!!

พระเอกของเราในครั้งนี้ คือ Spike (เล่นโดย Alfie Williams) เด็กหนุ่มอายุ 12 ปี ที่ไม่ได้แค่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเติบโต แต่ต้องเผชิญกับโลกที่มีซอมบี้อยู่เต็มไปหมด

ความน่าสนใจอยู่ที่ Spike จะต้องไปค้นหาหมอสุดประหลาดที่เหมือนจะเป็นคำตอบให้กับแม่ที่ป่วยหนัก (เล่นโดย Jodie Comer) แหม… เกิดมามันก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น

แน่นอนว่าเด็ก ๆ ไม่มีทางที่จะเชื่อฟังผู้ใหญ่เสมอไปและการตัดสินใจครั้งนี้ก็ทำให้เรื่องราวมันซับซ้อนและน่าสนุกขึ้นเยอะ

สิ่งที่น่าสนใจ คือ การแสดงออกของตัวละครบน Holy Island ที่ดูเหมือนพวกเขาจะตัดขาดจากโลกภายนอกมาเนิ่นนานจนกลายเป็นมนุษย์แบบที่คนในสมัยนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว สังคมที่หันหลังให้กับเทคโนโลยีและหันมาใช้วิธีการแบบเก่า ๆ ชนิดที่เรียกว่าความโบราณได้เลย

แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่น คือ การที่ภาพยนตร์เล่นกับความรู้สึกของผู้ชมได้ดีมาก คือมันไม่ใช่แค่ซอมบี้ที่คุณเห็นแล้วช็อก แต่มันยังพาคุณไปในโลกที่เต็มไปด้วยความหดหู่แบบมีอารมณ์เศร้า ๆ แทรกอยู่ด้วย

พอเดินทางไปแผ่นดินใหญ่บ้างแล้ว ความมันส์ก็เริ่มมาจริง ๆ ฉากแอ็คชั่นมีให้ดูเพียบ แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้ชมต้องคิดตามด้วยนะว่า “เอ๊ะ… นี้มันบ้าไปมั้ย ?” บางทีคุณอาจจะไม่ได้ตกใจเพียงแค่เรื่องการล่าสัตว์หรือการยิงปืนแบบเท่ ๆ แต่มันยังมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของภาพยนตร์ที่ทำให้มันดูแปลก ๆ แบบไม่เหมือนที่คาดหวังไว้

ความหลากหลายของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้มันดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มันไม่ได้แค่พูดถึงเรื่องซอมบี้หรือสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคย แต่มันเริ่มขุดลึกถึงจิตใจของมนุษย์ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้

ดังนั้นแล้ว แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ใช่หนังซอมบี้เต็มตัวแบบที่คุณเคยเห็นมา แต่ก็เป็นการเปิดโลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางการผสมผสานระหว่างสยองขวัญกับการเสียดสีสังคมมันทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงแน่ ๆ ค่ะ

28 Years Later : 8️⃣.5️⃣ / 🔟 เพราะมันมีทั้งสิ่งที่น่าสนใจและให้คิดตาม แต่บางทีอาจจะยังไม่ครบเครื่องเท่าที่หวังไว้นิดหน่อย

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>