slider2
slider2
previous arrow
next arrow
รีวิว Superman (2025) ซูเปอร์แมนฉบับ เจมส์ กันน์ ที่ไม่เหมือนเดิม แต่ดีกว่าเดิม

รีวิว Superman (2025) ซูเปอร์แมนฉบับ เจมส์ กันน์ ที่ไม่เหมือนเดิม แต่ดีกว่าเดิม

ทุกคนเคยรู้สึกไหมว่าพักหลัง ๆ มานี้หนังซูเปอร์ฮีโร่เริ่มจะหมดมุกแล้ว ทั้งความดาร์ก ความเครียด หรือพล็อตที่ซับซ้อนจนดูแล้วงงไปหมด แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วงแล้วเว้ยยย เพราะ เจมส์ กันน์ ผู้กำกับสุดกวนจาก Guardians of the Galaxy กลับมาพร้อมกับ Superman ฉบับรีบูต ที่จะมาปลุกกระแสฮีโร่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

รีวิว Superman

หลังจากที่เราคุ้นเคยกับซูเปอร์แมนฉบับ คริสโตเฟอร์ รีฟ ที่โคตรจะเป็นฮีโร่ในอุดมคติหรือฉบับ เฮนรี แควิลล์ ที่โคตรจะดาร์กและซีเรียส ในที่สุดเราก็ได้เจอซูเปอร์แมนในแบบที่โคตรจะเข้าถึงง่าย

เจมส์ กันน์ ได้สร้างโลกใบใหม่ที่สดใสและน่าสนใจให้กับ DC Universe โดยเฉพาะซูเปอร์แมนที่รับบทโดย เดวิด คอเรนสเว็ต ที่มีเสน่ห์แบบบ้าน ๆ และมีสายตาที่โคตรจะจริงใจ คือเขาเป็นซูเปอร์แมนที่ดูเป็นมนุษย์มากขึ้นและไม่ใช่แค่ฮีโร่ที่เก่งกาจไปซะหมด

เราจะได้เห็นเขาเผชิญหน้ากับ เล็กซ์ ลูเธอร์ (แสดงโดย นิโคลัส เฮาลต์) มหาเศรษฐีที่โคตรจะร้ายกาจและยังต้องรับมือกับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ รวมไปถึงการเลี้ยงน้องหมาสุดป่วนอย่าง คริปโต อีกด้วย

สิ่งที่ทำให้ซูเปอร์แมนฉบับนี้แตกต่าง คือ การที่หนังพูดถึงประเด็นของ ‘คนชายขอบ’ และ ‘ผู้อพยพ’ ที่เป็นส่วนสำคัญของตัวละครนี้มาเกือบศตวรรษแล้ว ซึ่งซูเปอร์แมนไม่ได้เป็นแค่ฮีโร่ที่มาพร้อมกับสโลแกน ‘ความจริงและความยุติธรรมในแบบอเมริกัน’ อีกต่อไปแล้ว หากแต่เขากลายเป็นฮีโร่ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างผู้ที่ถูกรังแกและต่อสู้เพื่อความถูกต้องต่างหาก

นอกจากนี้ ในหนังเรื่องนี้ซูเปอร์แมนยังดูเปราะบางทั้งทางร่างกายและจิตใจมากขึ้น เขาไม่ได้กลัวแค่คริปโตไนต์หรือ Lex Luthor อย่างเดียวแล้ว แต่เขากลัว ‘ความไม่แน่นอน’ และสงสัยในความดีของตัวเอง ซึ่งมันทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าเอาใจช่วยมากขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่าตัวหนังจะดีงามมากเเค่ไหน แต่ก็มีบางจุดที่แอบขัดใจอยู่นิดหน่อย คือ การที่หนังมีตัวละครอื่น ๆ เข้ามาเยอะเกินไป ทั้ง กรีน แลนเทิร์น, ฮอว์คเกิร์ล และ มิสเตอร์เทอร์ริฟิก ทำให้บางช่วงของหนังดูเหมือนเป็นหนังรวมทีมมากกว่าจะเป็นหนังเดี่ยวของซูเปอร์แมน ซึ่งมันเลยทำให้ตัวละครหลักอย่างซูเปอร์แมนหายไปจากจอพักใหญ่เลย

แต่ถึงยังไง เจมส์ กันน์ ก็ยังสามารถลากกลับมาให้เข้าที่เข้าทางได้ในตอนท้ายของเรื่องและทำให้ซูเปอร์แมนของเรากลับมาผงาดอีกครั้ง

ดังนั้น ถ้าเพื่อน ๆ อยากดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูแล้วรู้สึกดี อบอุ่นหัวใจ และเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่โคตรจะมันส์ Superman ฉบับ เจมส์ กันน์ คือ หนังที่เราต้องดูให้ได้เลย บอกเลยว่าดูจบแล้วจะรู้สึกเหมือนได้รับพลังบวกกลับไปเต็ม ๆ เลย (มีเเรงลุยงานต่อได้เลยว่างั้นเถอะ ฮ่า ๆ)

Superman (2025) : 9️⃣ /🔟 โดยรวมเเล้วหนังค่อนข้างทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ๆ เป็นการรีบูตซูเปอร์แมนที่มาถูกที่ถูกเวลา ทั้งยังทำให้เราเชื่อว่าซูเปอร์ฮีโร่ยังคงเป็นตัวแทนของความหวังได้เสมอ ที่สำคัญมันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ดู Spider-Man (2002) อีกครั้งเลย

<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่  www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>