รีวิว Sinkhole (2021) เมื่อบ้านที่เคยคิดว่าเพอร์เฟ็กต์กลายเป็นหลุมพรางของสังคมที่ไม่เคยสนใจความจริง
พัคดงวอน (รับบทโดย คิมซองคยุน) ผู้ชายธรรมดาที่ฝันอยากมีบ้านสักหลังให้ลูกเเละภรรยามีชีวิตที่สุขสบาย อยู่ดี ๆ ก็พบว่าบ้านที่คิดว่าเป็นสวรรค์กลับกลายเป็นหลุมพรางของชีวิต เขาสร้างความฝันขึ้นมาแล้วก็พบว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตา
ทันทีที่เขาจัดงานขึ้นบ้านใหม่ให้เพื่อนร่วมงานมาเยือน เขาก็ไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะตกลงไปในหลุมมหึมา ทุกอย่างเริ่มจากพื้นบ้านที่ดูเหมือนจะไม่มั่นคง แล้วก็ต่อด้วยน้ำประปาที่พังและไม่เคยมีใครมาซ่อมแซม ปัญหาของบ้านที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกอย่างตกลงไปในหลุม มันเหมือนกับการที่เราต้องเผชิญกับสังคมที่ไม่ยอมรับความจริงจนกว่าจะเกิดวิกฤตใหญ่เสียก่อนนั่นเเหละ
และแล้วเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น !!! บ้านที่ ดงวอน คิดว่าเขาซื้อมาเป็นบ้านในฝัน กลับถูกดูดลงไป 500 เมตรใต้ดินในพริบตา มันเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสร้างขึ้นมาเพื่อตัวเอง กลายเป็นการตอกย้ำความไร้ค่าของสังคมที่มันไม่เคยจริงจังกับการดูแลบ้าน ดูแลตัวเอง และดูแลสิ่งที่สำคัญที่สุด (ความปลอดภัย)
ใด ๆ หนังเรื่องนี้ไม่ได้แค่เล่าเรื่องการเอาชีวิตรอดในหลุมมหึมาเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนถึงปัญหาของสังคมเกาหลีที่ต้องเผชิญกับการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ “โซล” สถานที่ที่บ้านไม่เพียงพอ จนคนต้องเลือกอยู่ในอาคารที่อาจมีความเสี่ยงสูง ต่อให้การสร้างอาคารเหล่านั้นมีปัญหาซ่อนอยู่มากมาย เเต่ทุกคนก็ยังปิดปากเงียบ เพราะกลัวราคาบ้านจะลดลง เรื่องนี้สะท้อนภาพของคนที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อการแสดงออกในสังคมที่พยายามจะรักษาภาพลักษณ์ไว้ แต่ลึก ๆ เเล้วก็รู้ว่าทุกอย่างกำลังจะพังทลายลงอยู่ตรงหน้า
ส่วนในด้านของความบันเทิง Sinkhole มีอะไรให้ตลกมากมาย แม้จะเป็นหนังภัยพิบัติที่อาจจะทำให้คุณหลอนและตกใจจากการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่ตัวละครในเรื่องนั้นกลับกลายเป็นความสุขที่ช่วยเยียวยา ทำให้เราไม่ต้องจริงจังกับความน่าสะพรึงกลัวมากนัก ความตลกของตัวละครอย่าง มันซู (ชาซึงวอน) ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งฮีโร่และตัวตลกในเวลาเดียวกัน ทำให้เราหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าในความจริงมันไม่ได้ตลกเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ การที่หนังมีจังหวะตลกอยู่ตลอดเวลา เเต่ก็ไม่ได้ทำให้การเอาชีวิตรอดดูเบาเกินไป เพราะมันก็มีฉากที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่าบางเรื่องมันไม่ใช่เรื่องขำ ๆ เมื่อบ้านพังลงไปจนกลายเป็นซากปรักหักพัง สังคมที่พยายามจะหลบซ่อนความจริงเอาไว้ ก็ถูกฉีกออกมาให้เห็นกันชัด ๆ ว่าแค่ปิดตาและมองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าอะไรจะดีขึ้นหรอก ความจริงมันยังคงอยู่ตรงหน้าเสมอและมักจะมาในรูปแบบที่เราคิดไม่ถึง
พูดถึงการทำงานของผู้กำกับ คิมจีฮุน ที่เคยทำ The Tower มาก่อนหน้านี้ ถ้าใครคาดหวังว่าเขาจะทำหนังที่จริงจังขนาดนั้นเเล้วละก็ คงจะผิดหวัง เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้พยายามจะบีบคั้นอารมณ์ผู้ชมให้ร้องไห้หรือลุ้นจนสุดตัว แต่มันมาพร้อมกับการเสียดสีสังคมที่มองข้ามปัญหามาโดยตลอด แล้วก็ใช้หลุมมหึมานี้เป็นวิธีการสอนบทเรียนแก่ผู้ชมแบบเจ็บแสบในความเงียบ (ส่วนตัวค่อนข้างชอบเลยล่ะ)
ท้ายที่สุดเเล้ว หนังไม่ได้พยายามจะทำให้เราเชื่อว่าโลกนี้มันเป็นที่ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่อยากให้เรารู้ว่า สังคมที่หละหลวม การไม่ใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มันอาจจะทำให้ทุกอย่างพังลงได้ในพริบตา ถึงแม้จะเป็นหนังที่สนุกและพาไปขำ ๆ กับมุกตลกของตัวละคร แต่มันก็มีบางส่วนที่ทำให้เรานึกถึงสังคมที่เรากำลังอยู่อย่างทุกวันนี้
Sinkhole : 8️⃣ / 🔟 หนังไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ขนาดที่ต้องให้คะเเนนเต็ม แต่ก็จัดเต็มความบันเทิงให้กับคนที่อยากดูอะไรเบา ๆ โดยไม่ต้องการมานั่งเครียดกับการซึมซับความจริงในชีวิต ทว่ามันก็ยังมีมุมที่เสียดสีสังคมได้ดีจนทำให้คุณสะดุดและตั้งคำถามในใจได้ตลอดเวลาว่า …
ถ้าเราไม่เริ่มตระหนักกับปัญหาที่เห็นจะกลายเป็นหลุมพรางในสักวันหนึ่งหรือเปล่า ?
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>