เรื่องราวของศาสนา ความเชื่อ กับเหตุการณ์พระเจ้าพิพากษามนุษย์
เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับหนังดังจากเกาหลีอย่าง ยังซอนโฮ ผู้มีผลงานอย่าง Train To Busan, Peninsula และแอนิเมชันอย่าง Seoul Station จะสร้างซีรีส์บนเน็ตฟลิกซ์ ทุกคนต่างก็หูผึ่ง เรื่องราวที่เขาจะเล่ามันจะเป็นยังไงกันนะ แล้วต่อมาเราก็ได้รู้ว่ามันจะเป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเว็บตูนและมีความยาว 6 ตอนที่ฉายพร้อมกันทีเดียว และมีชื่อว่า Hellbound หรือ ทัณฑ์นรก
ซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เมื่อมีสัตว์ประหลาดร่างกายสีดำร่างโต 3 ตัว ออกมาอาละวาดไล่ล่ารุมทึ้งมนุษย์ ฉีกเฉือนร่างจนขาดใจ จากนั้นมันก็ฉายแสงจ้าที่พาร่างนั้นมอดไหม้กลายเป็นซากสีดำ แต่ในระหว่างนั้น ก็กลับเกิดศาสนา-ลัทธิ หรืออะไรก็ตามแต่ขึ้นมา ชวนสงสัยว่า เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนั้น…
มันคืออะไรกันนะ?
Hellbound มันเกี่ยวกับอะไรกันนะ?
โลกมนุษย์กำลังเหตุการณ์ประหลาดและน่าสะพรึงกลัว เมื่อจู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดสีดำร่างยักษ์ 3 ตัว โผล่โดยไม่รู้ที่มาและคร่าชีวิตของมนุษย์เป้าหมายให้ตกตายแล้วจึงเผาร่างจนมอดไหม้ก่อนจากไป พร้อมๆ กันนั้น ก็มีกระแสของศาสนาหรือลัทธิใหม่เกิดขึ้น คำสอนของกลุ่มนี้ก็คือคำอธิบายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้มนุษย์ทำตนให้ดีขึ้น ศาสนานั้นมีชื่อว่า ‘สัจธรรมใหม่’ นำโดยชายที่ชื่อ จองจินซู (Yoo Ah In/ยูอาอิน จากหนังเรื่อง #Alive และ Burning, ซีรีส์เรื่อง The Roots of Throne) ผู้เผยแพร่คำสอนมาราว 10 ปี
หลังจัดการถ่ายทอดสดการพิพากษา เมื่อได้เห็นกับตาจึงมีผู้คนเชื่อถือศรัทธาเพิ่มขึ้นมากมาย
ยามเกิดเหตุเภทภัย ยังมีตำรวจคอยดูแลทุกข์สุขประชาชน จินคยองฮุน (Yang Ik June/ยังอิกจุน จากซีรีส์ The Innocent Man และ It’s Ok, This is Love) คือสายสืบที่ให้ความสนใจในเหตุสัตว์ประหลาดฆ่าคนตาย จึงลงพื้นที่พร้อมด้วยคู่หู แต่ดูเหมือนว่ามันยิ่งนำพาให้เขาจนแต้มมากขึ้นทุกที เมื่อได้รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักอย่าง จินฮีจอง (Lee Re/อีเร จากซีรีส์ Hello, Me!, Move To Heaven และเล่นหนัง Peninsula) ไปช่วยงานของจองจินซูอยู่บ่อยๆ
นอกจากนี้ ซีรีส์ 6 ตอนยังเล่าถึง แบยองแจ (Park Jung Min/พัคจองมิน จากหนังเรื่อง Psychokinesis ) พีดีที่ได้รับหน้าที่ควบคุมการตัดต่อรายการโปรโมตให้ศาสนาสัจธรรมใหม่ เขามีภรรยา ซงโซฮยอน (Won Jin A/วอนจินอา จากซีรีส์เรื่อง She Would Never Know, Life และหนังเรื่อง The Age of Shadows) ที่เพิ่งคลอดลูก เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับศาสนานี้อย่างไม่เต็มใจ
ขณะที่มินเฮจิน (คิมฮยอนจู จากซีรีส์เรื่อง What Happens to My Family?) คือทนายสาวที่เข้าไปให้การช่วยเหลือเหยื่อคนนึงในปฏิบัติการของพระเจ้าครั้งนี้
รีวิวซีรีส์ ทัณฑ์นรก
หลายครั้งที่ซีรีส์เกาหลีเลือกจะเล่าเรื่องราวที่คอยสำรวจตรวจสอบเรื่องลัทธิ ความเชื่อ ศรัทธา โดยจับผสมรวมเข้ากับความลี้ลับเหนือธรรมชาติ ที่สามารถสร้างเรื่องให้ทั้งลุ้นชวนติดตาม สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ก็เช่นกัน พาทุกคนไปพบกับลัทธิหรือศาสนาที่เพิ่งเกิดมาใหม่ๆ พร้อมๆ กับการมาของสัตว์ประหลาดทั้งสามตัว
เมื่อตำรวจตรวจสอบสวนพระเจ้า
เหตุการณ์ที่น่ากลัว ผู้คนพากันกรีดร้องยามพบเห็นมนุษย์ผู้โชคร้ายถูกจับร่างฟาดยับเช่นนั้น ไม่มีทางรอดพ้นจากสายตาของสายสืบมือดีไปได้ แม้ว่ามันจะเป็นเหตุที่เกิดจากสัตว์ประหลาดร่างดำแบบนั้น แต่พวกเขาก็ต้องไปตามสืบเพราะมันเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น จะว่าไป ก็ชวนประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ตำรวจต้องตรวจสอบกิจกรรมของพระเจ้าด้วยงั้นรึ? เอาจริงๆ ในโลกของซีรีส์เรื่องนี้ พระเจ้าต่างหากที่จะพิพากษามนุษย์ แต่ลองคิดดูอีกที
พระเจ้านั่นแหละที่ประพฤติตัวให้มนุษย์รู้สึกสงสัยและตั้งคำถาม
ในเรื่องนั้น ใครก็ตามที่ได้เห็นทูตสวรรค์ผู้ปรากฏตัวเพื่อทำนายวันตายของเขา [ที่เขาจะเรียกว่าได้รับประกาศิต] คนผู้นั้นจะต้องตายด้วยน้ำมือเพชฌฆาตแห่งนรกทั้งสามตัวตามวันเวลาที่ทูตสวรรค์ได้บอกไว้ กิจกรรมนี้ถูกองค์กรทางศาสนาที่ชื่อ ‘สัจธรรมใหม่’ อธิบายไว้ว่าเป็นการสาธิตความทุกข์ทรมานในขุมนรกแบบจะแจ้ง เพื่อให้มนุษย์ทำตัวให้ดีขึ้น เกรงกลัวในการทำบาปมากขึ้น จุดหมายปลายทางก็คือ การสร้างโลกใหม่ที่ไม่มีคนบาปนั่นเอง
เมื่อมีศาสนาก็ย่อมต้องมีสาวก
การกำเนิดขึ้นของศาสนาก็มักจะมาพร้อมกับการมีผู้เลื่อมใสศรัทธา หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า สาวก ในเรื่องก็เกิดกลุ่มก้อนหนึ่งขึ้นมาเช่นกัน พวกเขารวมตัวกันเรียกตนเองว่า ‘กลุ่มหัวศร’ พวกเขาคือผู้ที่ศรัทธาในศาสนา ‘สัจธรรมใหม่’ แต่มีแนวคิดที่ค่อนข้างสุดโต่งและหัวรุนแรง พวกเขาหวังจะเห็นบาปของผู้ที่พบเจอทูตสวรรค์ พวกเขาพร้อมๆ จะทำร้ายคนที่ไม่เชื่อในศาสนาเดียวกันจนปางตาย กลุ่มหัวศรกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนศาสนา ขณะเดียวกันก็กลายเป็นรอยด่างพร้อย
แต่เราก็ได้เห็นเช่นกันว่า บางครั้งผู้นำศาสนาก็เลือกใช้พวกหัวรุนแรงเหล่านี้เพื่อควบคุมให้เป็นไปตามต้องการ ถ้ามองกันดีๆ แล้ว ‘สัจธรรมใหม่’ ใช้ความกลัวเพื่อควบคุมคนให้เชื่อ ทั้งเลือกเฟ้นคอนเทนต์ที่เป็นไปในทางเดียวกับคำสอน ทั้งพร้อมจะกำจัดทุกเส้นทางที่จะทำให้คำสอนผิดเพี้ยน
เหมือนนำวงการศาสนามาแฉให้เห็นว่าภายในเปลือกนั้นมีความเลวร้ายอยู่
ความไม่เชื่อในกฎหมายของมนุษย์ แล้วเชื่อการลงทัณฑ์ของพระเจ้างั้นรึ?
ความจริงแล้ว ทัณฑ์นรก มีหลากหลายแง่มุมให้ชวนคิดตาม การดูซีรีส์เรื่องนี้จึงเหมือนได้ใช้สมองในการไตร่ตรองและให้น้ำหนักในหลายสิ่งที่มันพูดถึง
ผู้นำศาสนามักจะพูดอยู่เสมอว่า มนุษย์มีกฎหมายไว้เพื่อลงโทษคนทำผิด แต่การลงโทษนั้นเพียงพอสาสมกับความผิดของคนบาปหรือยัง หลายครั้งที่เห็นคนทำผิดถูกพิพากษาเข้าคุกแต่ไม่นานก็ออกมาเดินปร๋อในสังคมโดยไม่ได้สำนึกผิดใดๆ ขณะที่เขามองว่า การพิพากษาของเหล่าเพชฌฆาตคือการสังหารทั้งเป็น เผาจนมอดไหม้ ลากลงนรกไปรับโทษทัณฑ์ อาจเป็นการลงทัณฑ์ที่เหมาะสมกว่า อันนี้ก็ลองดูว่า อันไหนใช่ อันไหนยังไม่ชัวร์ในหัวของคุณเอง
ยิ่งเมื่อเรื่องราวในซีรีส์ดำเนินไป เราจะยิ่งกังขาในสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นพระเจ้าจริงหรือไม่ที่พิพากษามนุษย์ เป็นความจริงไหมที่พระเจ้าต้องการให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นตามคำสอนที่สัจธรรมใหม่พร่ำบอก หรือมันเป็นเพียงการมโนไปเองของมนุษย์บางกลุ่ม ที่ถือเอาการลงทัณฑ์ให้เห็นเป็นรูปธรรม [ของพระเจ้าไหนก็ไม่รู้] มาสร้างความกลัวเพื่อเรียกคนเข้ามาเป็นสาวก แต่แท้จริงไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย
นัยยะบางอย่างบ่งบอกว่ามันต้องการบอกเล่าเรื่องการปกครอง
ซีรีส์ยังดูจะมีนัยยะแฝงหลายอย่างให้ขบคิดและถกเถียง ไม่ว่าจะเป็น การที่ให้ผู้นำศาสนาคนใหม่มีชื่อว่า คิมจองชิล คนที่มีความเด็ดขาดและโหดเหี้ยมกว่าคนเก่า ชื่อของเขาดูคุ้นๆ ชอบกล หรือการที่เปิดให้มีผู้ชมระดับวีไอพี ได้นั่งเก้าอี้ริงไซด์รับชมการพิพากษาแบบใกล้ๆ ที่น่าจะจ่ายเงินมากโขแลกมา และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องดูเอาเอง รู้สึกเอาเองแหละครับท่านผู้ชม
สิ่งหนึ่งที่ชวนตะหงิดใจระหว่างรับชมนั่นคือ ซีรีส์นี้อาจบอกเล่าเรื่องของศาสนา ผู้นำคำสอน สาวกผู้งมงาย แต่แท้จริงแล้ว อาจมุ่งหมายจะบอกถึงการปกครองคนในระบอบเผด็จการที่ใช้ความกลัวกดหัวประชาชนให้อยู่แต่ในกรอบที่ต้องการ มโนตั้งกฎอะไรสักอย่างเพื่อให้ผู้คนยอมตาม ไม่ก็ยอมจำนน และก็มักจะมีกลุ่มก้อนที่ทำตัวเป็นสาวก ที่เชื่อสนิทใจให้ข้อกังขา แต่ใช้กำลังทำร้ายคนเห็นต่างโดยไม่มองว่านั่นคือสิ่งผิด
เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นและเห็นเป็นประจักษ์ในบางสังคม แม้แต่สังคมที่เรายืนอยู่นี้ก็ตาม
บทที่อัดแน่นชวนติดตาม และกลุ่มนักแสดงที่จัดเต็มฝีมือ
อาจจะไม่ได้พูดถึงนักแสดงทุกคน หรือตัวละครทุกตัว แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า แคสต์เรื่องนี้แข็งแกร่งมาก ทุกคน ไม่ว่าจะตัวเล็กตัวใหญ่ มีบทบาทเพียงไม่กี่ตอน แต่ก็มีบทบาทที่ชวนทึ่งในความสามารถ มีช่วงเวลาที่โดดเด่นของตนเอง
ในส่วนของบทนั้น ด้วยความที่มันมีเพียง 6 ตอน จึงอัดแน่นแทบไม่หยุดพัก หลายครั้งต้องหยุดแล้วย้อนไปดูใหม่เพื่อความเข้าใจในสิ่งที่ตัวละครพูด อาจมีบางจุดที่อาจชวนสงสัยว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น อาจมีปัญหาบ้างในการดำเนินเรื่องที่มีการดึงช้าจนขัดใจ ขณะที่เทคนิคสเปเชียลเอฟเฟกต์นั้นแม้จะดูลอยๆ อยู่บ้าง แต่ก็นับว่าละเอียดละออกันพอสมควร