Google ซื้อบริษัทจอแสดงผล MicroLED ที่สามารถช่วยทำให้ชุดหูฟัง AR ดีขึ้นและราคาถูกลงได้
วันนี้ Rick Osterloh หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Google ยืนยันว่าบริษัทได้ซื้อ Raxium ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพอายุ 5 ขวบที่ใช้เทคโนโลยี MicroLED ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญในการสร้างชุดหูฟังเสมือนจริง และแบบผสมรุ่นใหม่
นี่เป็นการเพิ่มหลักฐานว่าการย้าย AR ครั้งใหญ่ครั้งต่อไปของ Google กำลังใกล้เข้ามา
ก่อนหน้านี้ บริษัท ได้ซื้อกิจการผู้ผลิตแว่นตา North ในปี 2020 และมีรายงานว่าจ้างวิศวกรเพื่อสร้างระบบปฏิบัติการในเดือนมกราคมว่า Google Labs กำลังสร้างชุดหูฟัง AR ที่เรียกว่า “Project Iris” ภายใต้การจัดการเดียวกับการสาธิตวิดีโอแชทความละเอียดสูงของ Project Starline ที่แสดงระหว่างงาน I/O เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อ The Information รายงานการซื้อ Raxium ของ Google เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าเทคโนโลยี MicroLED อาจมีประโยชน์สำหรับการสร้างจอแสดงผล AR ที่ประหยัดพลังงานมากกว่าโซลูชันอื่นๆ แต่ก็ยังดูมีสีสัน นอกจากนี้ Raxium กำลังทำงานเกี่ยวกับ “การรวมเสาหิน” สำหรับ MicroLEDs ซึ่งรายงาน The Information จะหมายถึงการผลิตซิลิคอนชนิดเดียวกับที่ใช้กับโปรเซสเซอร์ส่วนใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาลดลงอย่างมาก บริษัทอื่นๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ MicroLED AR ได้รวม Oppo, Apple และ Vuzix
สำหรับการแข่งขัน Microsoft ได้ส่งมอบอุปกรณ์ความจริงเสมือนที่มี HoloLens ในขณะที่ Apple, Meta, Snap และอื่น ๆ มีรายงานว่าลงทุนอย่างหนักเพื่อสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองที่ซ้อนทับข้อมูลและรูปภาพบนโลกแห่งความเป็นจริง
ตามเว็บไซต์ของ Raxium หน้าจอ Super AMOLED บนโทรศัพท์ของคุณมีระยะพิทช์พิกเซล (ระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางของพิกเซลหนึ่งกับศูนย์กลางของพิกเซลอื่นที่อยู่ติดกัน) ประมาณ 50 ไมครอน ในขณะที่ MicroLED สามารถจัดการได้ประมาณ 3.5 ไมครอน นอกจากนี้ยังมี “ประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน” ซึ่งดีกว่าสถิติโลกมากกว่าห้าเท่า
Osterloh อ้างถึงทั้งขนาดและประสิทธิภาพในบล็อกโพสต์ของเขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการแสดงผลในอนาคตที่ Raxium อาจสร้างขึ้น เขากล่าวว่า บริษัทจะเข้าร่วมทีมอุปกรณ์และบริการของ Google และ “ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในด้านนี้จะมีบทบาทสำคัญในขณะที่เรายังคงลงทุนในความพยายามด้านฮาร์ดแวร์ของเรา”
เป็นที่น่าจับตามองว่าทาง Google จะพัฒนาเทคโนโลยี AR ไปได้อีกไกลแค่ไหนหลังจากการเข้าซื้อบริษัท Raxiom ในครั้งนี้
ติดตามเพจเพื่อรับข่าวสารไอที ทันเทคโนโลยี ได้ที่ เพจ : https://web.facebook.com/iTEPiT
ที่มา : theverge.com