Sully (2016) ปาฏิหาริย์กลางแม่น้ำฮัดสันและแรงกดดันที่แท้จริงของฮีโร่
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจในประวัติศาสตร์การบิน เหตุการณ์ของ US Airways Flight 1549 คงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะนี่คือครั้งแรกที่นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดกลางแม่น้ำได้โดยไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว นั่นคือเหตุการณ์ “ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน” (Miracle on the Hudson) ซึ่งเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่อง Sully (2016) ที่กำกับโดย คลินต์ อีสต์วูด (Clint Eastwood) และนำแสดงโดย ทอม แฮงส์ (Tom Hanks) ผู้สวมบทบาทเป็นกัปตัน เชสลีย์ “ซัลลี” ซัลเลนเบอร์เกอร์ (Chesley “Sully” Sullenberger) ชายผู้กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของคนทั้งประเทศ
หนังเปิดเรื่องด้วยฉากที่ชวนให้หัวใจหยุดเต้น กัปตันซัลลีฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เครื่องบินของเขาพุ่งชนตึกสูงกลางเมืองนิวยอร์ก ฉากนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความกดดันที่ซัลลีต้องเผชิญหลังจากที่เขานำเครื่องบินลงจอดบนแม่น้ำฮัดสันได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะได้รับการยกย่องจากสาธารณชน แต่เบื้องหลังกลับเป็นเรื่องราวที่หนักหนาสาหัส เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับการสอบสวนจากหน่วยงานด้านการบินแห่งชาติ (NTSB) ที่พยายามหาข้อสรุปว่า การตัดสินใจของเขาเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องจริงหรือไม่ ? หรือเขาสามารถนำเครื่องกลับไปลงจอดที่สนามบินได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตของทุกคนบนเครื่อง
สิ่งที่ทำให้ Sully โดดเด่นเหนือภาพยนตร์แนวชีวประวัติทั่วไป คือ การเล่าเรื่องที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ฉากระทึกขวัญของการลงจอดกลางแม่น้ำเท่านั้น แต่กลับให้ความสำคัญกับผลกระทบที่ตามมาหลังจากเหตุการณ์นั้น อีสต์วูดเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวในแบบที่แตกต่าง เขาไม่ได้เล่าเรื่องราวตามลำดับเวลา แต่ใช้วิธีการแฟลชแบ็กและการตัดสลับระหว่างเหตุการณ์จริงกับการสอบสวน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกัน ทั้งมุมของซัลลีเองที่ต้องต่อสู้กับความกังวลว่าเขาได้ตัดสินใจถูกต้องหรือไม่และมุมของหน่วยงานที่ตั้งข้อสงสัยต่อการกระทำของเขา
ทอม แฮงส์ ถ่ายทอดบทบาทของกัปตันซัลลีได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เล่นเป็นฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความกังวล ความกลัว และแรงกดดันจากสังคม แฮงส์สามารถแสดงออกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนของซัลลีได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับคณะกรรมการสอบสวนและพยายามอธิบายเหตุผลในการตัดสินใจของเขา นอกจากนี้ ยังมี แอรอน เอ็คฮาร์ท (Aaron Eckhart) ที่รับบทเป็น เจฟฟ์ สไคลส์ (Jeff Skiles) ผู้ช่วยนักบินของซัลลีที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้สนับสนุนของเขา
ฉากที่โดดเด่นที่สุดของหนัง คือ ฉากที่เครื่องบิน US Airways Flight 1549 สูญเสียพลังงานทั้งสองเครื่องยนต์จากการพุ่งชนฝูงนกและซัลลีตัดสินใจนำเครื่องลงจอดบนแม่น้ำฮัดสัน ฉากนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมจริงและเต็มไปด้วยความระทึกใจ แม้ว่าผู้ชมจะรู้ตอนจบอยู่แล้ว แต่ก็ยังทำให้รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นไปกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อีกแง่มุมที่น่าสนใจของหนัง คือ การตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ความเป็นฮีโร่” แม้ว่าสังคมจะยกย่องซัลลีว่าเป็นผู้กอบกู้ชีวิตผู้โดยสาร 155 คน แต่กระบวนการสอบสวนกลับทำให้เขาต้องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่โชคดี แต่เป็นการใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณที่ถูกต้อง เมื่อผลการจำลองในคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินสามารถกลับไปลงจอดที่สนามบินได้ ซัลลีต้องต่อสู้เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า ในสถานการณ์จริง นักบินไม่มีเวลาคิดแบบคอมพิวเตอร์ เขามีเวลาเพียง 208 วินาทีที่จะตัดสินใจเพื่อช่วยชีวิตทุกคน
ในแง่ของงานกำกับ Sully เป็นหนึ่งในผลงานที่แข็งแกร่งของคลินต์ อีสต์วูด เขาใช้สไตล์การเล่าเรื่องที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ไม่พยายามใส่ดราม่าเกินจริง แต่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและอารมณ์ของตัวละคร แม้ว่าหนังจะไม่ได้เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันหรือการเล่าเรื่องที่หวือหวา แต่มันสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ ดนตรีประกอบของ คริสเตียน เจคอบ (Christian Jacob) และงานสร้างของทีมโปรดักชันก็ช่วยเสริมให้หนังมีบรรยากาศที่สมจริงและทรงพลัง แม้ว่าฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉากในห้องประชุมสอบสวนหรือเหตุการณ์จำลอง แต่หนังกลับสามารถทำให้คนดูรู้สึกมีส่วนร่วมและเข้าใจถึงความกดดันที่ซัลลีต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี
Sully เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้แค่เล่าเรื่องราวของปาฏิหาริย์กลางแม่น้ำฮัดสัน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบของนักบินที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันหลังจากการกระทำที่กล้าหาญของพวกเขา นี่คือหนังที่พูดถึงความเป็นมนุษย์ การตัดสินใจในช่วงเวลาวิกฤติ และคำถามที่ว่าฮีโร่ที่แท้จริงต้องเผชิญกับอะไรมากกว่าที่คนทั่วไปจะรับรู้
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ชีวประวัติที่เข้มข้น มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยม Sully เป็นหนังที่ไม่ควรพลาด มันไม่ใช่หนังแอ็กชันหรือลุ้นระทึกแบบหนังหายนะทั่วไป แต่เป็นหนังที่ทำให้เราเข้าใจว่า ความกล้าหาญไม่ได้จบลงหลังจากเหตุการณ์สำเร็จ แต่มันเพิ่งเริ่มต้นเมื่อสปอตไลต์ดับลง
คะแนน : 9/10
<< ติดตามหนังดี ซีรีส์ดังก่อนใครได้ที่ www.uhdmax.net | www.inwiptv.org >>