slider2
slider3
previous arrow
next arrow
เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้โอกาสในการลุ้นแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบกว่า 8 ปีของพวกเขาเริ่มห่างไกลไปเรื่อยๆ

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ สำหรับแมตช์นี้ทั้งสองทีมเล่นในสไตล์รัดกุม และไม่ค่อยมีโอกาสในการสร้างความหวาดเสียวมากนัก แต่ก็มีประเด็นให้พูดถึงโดยเฉพาะในจังหวะแฮนด์บอล และผู้ตัดสินจัดการเช็ค “วีเออาร์” แล้ว ปฏิเสธที่จะให้จุดโทษกับ “ผีแดง”

 

1. ทีมใหญ่ของแสลงที่แมนยูกินไม่ลง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติที่สวยหรูดูดีเหลือเกินในการเล่นเกมเยือน โดยพวกเขาไม่แพ้ 19 เกมลีกติดต่อกัน (นับซีซั่นที่ผ่านมาด้วย) โดยในฤดูกาลนี้ผลงานการออกไปเล่นนอกบ้านยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น แต่ในขณะเดียวกัน 3 แมตช์หลังสุดก็ได้แต่เสมอเช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือการพบกับทีมใหญ่ พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลยในการพบกับ อาร์เซน่อล (เสมอ 0-0 แพ้ 0-1) , เชลซี (เสมอ 0-0 ทั้งสองเกม) , ลิเวอร์พูล (เสมอ 0-0) , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เสมอ 0-0) ส่วนในเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยิงได้ 1 ประตูแต่แพ้ยัง 1-6 โดยหากมองในแง่บวก “ผีแดง” มีความเหนียวแน่นในการพบกับทีมใหญ่ แต่หากมองอีกมุม พวกเขาไร้ประสิทธิภาพเมื่อเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า

จริงๆ แล้วการเสมอกับทีมใหญ่เหล่านี้ จะไม่เสียหายเลย หากพวกเขาสามารถเก็บแต้มจากทีมเล็กได้ แต่กระนั้นเมื่อมองดูผลงานของทีมในการพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เอฟเวอร์ตัน พวกเขาทำได้แค่เสมอ และแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมทำแต้มหลุดมือไปเยอะพอสมควร ดังนั้นการพลาด 3 คะแนนจากทีมใหญ่จริงกลายเป็นเรื่องเสียหายทันที

ที่น่าเป็นห่วงก็คือในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แมนฯ ยูฯ มีคิวต้องไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และด้วยสถิติในการเจอทีมใหญ่ที่ไม่ค่อยดีนัก แถม “เรือใบสีฟ้า” อยู่ในช่วงขาขึ้น งานนี้หาก โซลชา ไม่สามารถกระตุ้นลูกทีมให้งัดฟอร์มเก่งออกมาได้ แค่ผลเสมออาจจะไม่มีให้เห็นก็ได้

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

2. บรูโน่เงียบ,โควาซิช โดดเด่น
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเจาะตาข่าย เชลซี ในเกมนี้ได้ นั่นก็เพราะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเก่งเหมือนที่ผ่านๆ มา โดยเขาไม่สามารถที่จะสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เลยในแมตช์นี้

นี่เป็นอีกแมตช์ที่ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส เล่นไม่ออกเมื่อเจอกับทีมใหญ่ โดนแดนกลางของ เชลซี ไล่บี้ไม่หยุดทำให้เขาไม่มีเวลาในการปั้นเกมมากนัก และเมื่อ บรูโน่ สร้างโอกาสไม่ได้ ส่งผลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวู้ด แทบจะไม่มีโอกาสได้กดดันแนวรับของเจ้าบ้านมากนัก

ในขณะที่แดนกลางของ เชลซี ต้องบอกเลยว่า มัตเตโอ โควาซิช เล่นได้อย่างโดดเด่นโดยเขาเป็นหัวใจในแผงมิดฟิลด์ “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างแท้จริง ทั้งคอยเกมบอล และยังเปิดเกมเร็วในการเล่นเกมรุก ที่สำคัญยังคอยเรียกบอลจากเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา

มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย ทำหน้าที่ในเกมรับได้ดีเยี่ยม และป้องกันไม่ให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เล่นจังหวะสวนกลับ ขณะเดียวกันเขายังช่วยเติมเกมบุกได้หลายครั้ง และมีโอกาสได้ขึ้นไปยิงไกลทำให้ ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟ ดังนั้นต้องบอกเลยว่า โควาซิช ทำหน้าที่ได้ครบเครื่องจริงๆ

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

3. ก็องเต้ ช่วยเซฟจังหวะสำคัญเชลซี
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มีโอกาสได้ยืนเป็นคู่หูแผงกองกลางกับ โควาซิช โดยงานนี้ ทูเคิ่ล ตัดสินใจให้โอกาส ดาวเตะชาวฝรั่งเศส ลงสนามมากกว่าที่จะให้ จอร์จินโญ่ แต่ดูเหมือนว่าในครึ่งแรก ก็องเต้ เล่นแย่มากๆ ครองบอลไม่ดี และทำหน้าที่เกมรับน่าผิดหวัง

อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง ก็องเต้ มีการพัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาประสานงานกับ โควาซิช ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้แผงมิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสในการเล่นเกมบุกได้มากนัก

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

 

4. วีเออาร์จุดประเด็นร้อน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมที่มักจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วยตัดสินหลายแมตช์ โดยเกมนี้ดูเหมือนพวกเขาจะได้ของขวัญกล่องโตจาก “วีเออาร์” อีกครั้ง แต่งานนี้ สจ๊วร์ต แอตเวลล์ ผู้ตัดสินไม่บ้าจี้ไปด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 16 แอตเวลล์ เป่าหยุดเกมชั่วคราวหลังมีสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ ถึงความเป็นไปได้ที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย แข้งของเจ้าถิ่นจะทำแฮนด์บอลในเขตโทษ แต่หลังจากที่ท่านเปาวิ่งไปดูจอข้างสนามก็ยืนยันไม่เป็นจุดโทษแต่อย่างใด

หลังจากจบมีการแสดงทัศนะมากมาย โดยเฉพาะการเจาะจงตำหนิ แอตเวลล์ ที่เมินเฉยกับการให้จุดโทษครั้งนี้ เนื่องจากหากมองจากภาพจะเห็นได้ชัดว่ามือของ โอดอย ไม่ได้อยู่ในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ตอนที่บอลไปถูกมือของเขา

กระนั้นก็มีการแย่งประเด็นนี้ เพราะเมื่อเช็คจากวีดิโออย่างละเอียดจะเห็นได้ชัดว่าท่อนแขนของ กรีนวู้ด ขยับไปโดนแขนของ โอดอย ทำให้มือของเขาไปถูกลูกบอลแบบไม่ตั้งใจ ดังนั้นการที่ สจ๊วร์ต ใจแข็งไม่ยอมบ้าจี้ไปด้วยจึงเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว

เจาะ 5 ประเด็น แมนยู ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เชลซี แบบไร้สกอร์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

 

5. แต้มเดียวทำให้การลุ้นแชมป์ยิ่งห่างไกล
ผลเสมอในเกมนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต้องการ เพราะนั่นหมายความว่าสถานการณ์ในการสร้างเป้าหมายของทั้งสองทีม เริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะ “ผีแดง” เพราะนั่นทำให้โอกาสไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งห่างไกลเข้าไปอีก

“สิงโตน้ำเงินคราม” ตั้งเป้าที่จะเก็บ 3 คะแนนเพื่อหวังแซง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 แต่การที่พวกเขาได้เพียงแค่แต้มเดียวในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้ทีมของกุนซือโธมัส ทูเคิ่ล พลาดโอกาสในการขึ้นไปยึดท็อปโฟร์

ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ ต้องบอกว่าเสียหายหนักกว่า เพราะตอนนี้ช่องว่างในการลุ้นแชมป์ของพวกเขาเริ่มห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปมากขึ้นถึง 12 คะแนน นั่นยิ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจของพวกเขาในการลุ้นแชมป์ลีก

ที่สำคัญช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ “เร้ด เดวิลส์” มีคิวต้องทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ไปเยือนถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม หาก โซลชา ต้องการบีบช่องว่างให้แคบลง เขาต้องเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้าน และนั่นไม่ใช่สไตล์ที่ถนัดเวลาพบทีมใหญ่ของ “น้าลูกอม” ซึ่งอาจจะนำไปสู่หายนะก็ได้

<< รับชมบอลสด ทุกคู่ ครบทุกแมตซ์ เฉลี่ยเพียงแค่วันละ 10 บาท ที่ inwiptv >>