slider2
slider2
previous arrow
next arrow
แนะนำ 20 ภาพยนตร์น่าสนใจที่ได้คะแนนดีจาก IMDB ที่ไม่ควรพลาด
เชื่อว่าทุกคนที่มีความชอบการดูหนัง ต้องรู้จักกับเว็บไซต์ที่รีวิว และให้ข้อมูลหนังยอดนิยมอย่าง IMDB หรือ Rotten Tomatoes กันอย่างแน่นอน เพราะเป็นเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ และได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งหลายๆ คนก็เลือกดูหนังจากการให้คะแนน เรทติ้งจากทั้งสองเว็บไซต์ดังกล่าวก่อนที่จะดูหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อน ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาเอาใจคอหนังด้วยการนำลิสต์ 20 หนังดัง ที่ได้รับคะแนนจากการโหวตสูงสุด ของเว็บไซต์ IMDB ที่คุณไม่ควรพลาดมาแนะนำให้ทุกคุนได้เลือกชมกัน โดยทั้ง 20 เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งจากลิสต์ 250 หนังคะแนนสูงสุดจากเว็บไซต์ และเชื่อว่าหลาย

 

1.The Shawshank Redemption (1994) – คะแนน 9.3/10

The Shawshank Redemption (1994)
The Shawshank Redemption (1994)

สุดยอดภาพยนต์ดราม่า The Shawshank Redemption หนังแหกคุกในดวงใจหลายๆ คนอีกเรื่องที่ได้ถูกยกให้ขึ้นหิ้งได้เลย การดำเนินเรื่องกับเนื้อหาเรื่องนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ทำออกมาดีมาก มันไม่ใช่เพียงแค่หนังที่มีดีแค่แหกคุก แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ที่เราจะได้รู้สึกและอินไปกับบทบาทของเหล่านักเเสดงที่ได้ถ่ายทอดออกมา เรื่องราวที่เต็มไปด้วยมิตรภาพอันแสนอบอุ่นในเรือนจำที่คาดไม่ถึง ความดราม่าต่างๆ ของตัวละครที่เราจะได้รู้สึกไปกับหนัง ต้องบอกเลยว่า The Shawshank Redemption ควรจะเป็นหนังที่คุณควรดูสักครั้งและรับรองว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

 

2. The Godfather (1972) – คะแนน 9.1/10

The Godfather (1972)
The Godfather (1972)

หนังมาเฟียยอดเยี่ยมแห่งยุค The Godfather ที่จะทำให้เราได้เห็นกับมาเฟียอิตาลีออกมาได้อย่างสมจริง และตัวละครที่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ดอน และ ไมเคิล โคเลโอเน ที่หนังได้สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก กับอิทธิพลของตระกูลพวกเขาที่มีต่อผู้คนได้อย่างมาก การดำเนินเรื่องที่ดูมีชั้นเชิง และเรื่องราวต่างๆ ที่เหล่าตัวละครจะต้องผ่านมันไป ทำให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังมาเฟียที่ทำออกมาได้อย่างมีจุดเด่นเป็นเอกหลักจนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังมาเฟียที่หลายคนยกให้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมเลยละ

 

3. The Godfather – Part II (1974) – คะแนน 9.0/10

The Godfather - Part II
The Godfather – Part II

นับจากความสำเร็จครั้งก่อนกลับมาในครั้งที่สองกับ The Godfather – Part II สำหรับภาคที่ประสบความสำเร็จ ในหนังภาคสองก็เป็นการพาคนดูเข้าไปพบกับโลกของมาเฟียผ่านตระกูลโคเลโอเน ที่มาพร้อมเรื่องราวที่สุดเข้มข้น น่าติดตาม อย่างเช่นเคย นับว่าเป็นหนังที่ทำออกได้ดีเยี่ยมพอๆ กับภาคแรกเลย ตัวหนังยังคงมีความเป็นกลิ่นอายความเป็นมาเฟียอยู่เช่นเคย สนุกและน่าติดตามสำหรับที่ชื่นชอบหนังมาเฟียแนวนี้หรือชอบ The Godfather จากภาคแรกแล้วละก็ภาคนี้ก็จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน 

 

4. Fight Club (1999) – คะแนน 8.8/10

Fight Club (1999)
Fight Club (1999)

ผลงานการกำกับของ เดวิด ฟินเชอร์ ที่ได้ถูกดัดแปลงมาจากนิยายของ ชัค พอลาห์นิก Fight Club ภาพยนตร์ดราม่าแนว จิตวิทยา ที่ตัวหนังได้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในแนวจิตวิทยา และความตลกร้ายเข้าผสมกันออกมาได้อย่างน่าสนใจ และพร้อมฉากจบที่ชวนให้เราคนดูเหวอไปตามๆ กัน ตัวหนังได้ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ เดวิด ฟินเชอร์ เป็นผู้กำกับที่ถูกยกยกให้เป็นผู้กำกับหนังหักมุมแห่งยุคนั้นเลย

 

5. Forrest Gump (1994) – คะแนน 8.7/10

Forrest Gump (1994)
Forrest Gump (1994)

ถ้าจะให้พูดถึงหนังดีๆ สักเรื่อง ก็คงไม่พ้น Forrest Gump ที่จะเป็นหนึ่งในหนังที่หลายๆ คนจะต้องพูดถึงและต้องแนะนำให้กับใครสักคนให้ดูก่อนตายสักครั้ง จริงๆ ถึงในตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าหนังเรื่องนี้มันดียังไง แต่พอได้ดูแล้วละก็คงจะทำให้หนังเรื่องนี้ต้องไปอยู่ในใจไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีอายุนานกว่า 20 ปีกว่าแล้ว แต่เรื่องราวทั้งหมดมันไม่เคยเก่าหรือล้าหลังสำหรับปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย เรื่องราวในทุกวินาทีของมัน ยังคงสามารถถ่ายทอดและนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตเราได้เสมอ 

 

6. Inception (2010) – คะแนน 8.7/10

Inception (2010)
Inception (2010)

ถ้าเป็นหนังแนวปล้นละก็ขอแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นภาพยนตร์ที่สามารถนำจินตนาการออกมาเล่าเรื่องออกมาเป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่น ไซไฟ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม การหยิบนำเรื่องของความฝันมาเป็นจุดเด่นของตัวหนังออกมาได้อย่างเหนือชั้นทำให้สามารถสร้างเรื่องราวเหนือจินตนาการออกมาได้อย่าน่าติดตาม แต่มันก็ไม่ทำให้ดูมากจนเกินไปจนกลายเป็นแฟนตาซีไปซีเลย และทั้งตัวเนื้อเรื่องของหนังก็ยังมีความเข้มข้นของการทำภารกิจที่จะต้องทำให้สำเร็จ และความอันตรายในความฝันที่เกินกว่าจะนึกถึงได้ จึงเป็นภาพยนตร์ที่น่าดูไม่น้อยไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

 

7. Star  Wars : Episode V – The Empire Strikes Back (1980) – คะแนน 8.7/10

Star  Wars : Episode V - The Empire Strikes Back (1980)
Star  Wars : Episode V – The Empire Strikes Back (1980)

ถ้าพูดถึง Star  Wars แล้วละก็หลายๆ คนในปัจจุบันคงจะนึกถึงคำว่า “I am your father.” ที่กลายมาเป็นมีมที่ใช้กัน  หนังภาคที่ 5 ของจักวาลชุด Star  Wars และสร้างเป็นภาคที่ 2 ของหนังชุดนี้หรือภาคแยกมานั้นเอง ภาคนี้เป็นตัวแปรสำคัญของหนังชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนจบ ที่ได้ช็อคคนดูอย่างมากในยุคนั้น สำหรับสิ่งที่ทำให้หนังในภาคนี้เป็นหนังที่มีคุณค่าไม่เสื่อมคลาย คือมันเป็นหนังแอคชั่นอวกาศที่ดูสนุก เนื้อหาเข้มข้น และเต็มไปด้วยฉากที่ดูตรรการตาสุดๆ ในนั้น พร้อมทั้งการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิงเกินคาดเดา จนทำให้หลายๆ คนชื่นชอบและติดตามมาจนทุกวันนี้

8. The Matrix (1999) – คะแนน 8.6/10

The Matrix (1999)
The Matrix (1999)

The Matrix นับเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหญ่ของเหล่าวงการภาพตร์แอคชั่นไซไฟในยุคนั้น ด้วยเนื้อหาของหนังอันแสนแปลกตาและความหลากหลายที่ไม่ธรรมดา ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เหมือนจะมีปริศนาให้ผู้ชมได้สงสัยและเอาไปคิดกันได้แทบทุกฉาก จนทำให้หนังดูมีเสน่และมีจุดเด่นที่ดูแปลกตามากกว่าหนังอื่นๆ ในยุคนั้น จนทำให้น่าติดตามไปจนจบเรื่อง และถึงแม้หนังจะผ่านไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่ The Matrix ก็ยังถูกพูดถึงที่เป็นหนังไซไฟที่ดีที่สุดตลอดกาลสำหรับคนดู และนี่คือเรื่องราวของโลกเดอะแมทริกที่หลายๆ คนยังคงชื่นชอบ 

 

9. Se7en (1995) – คะแนน 8.6 /10

Se7en (1995)
Se7en (1995)

สำหรับใครที่ชอบหนังแนวอาชญากรรมแล้วละก็ ต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้ SE7EN หนังแนวอาชญากรรมที่มีเนื้อหาเรื่องราวสุดเข้มข้น และเรื่องราวที่ดาร์คได้อย่างขีดสุด โดยตัวหนังจะใช้เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาอย่าง บาปทั้ง 7 กับคดีอาชญากรรมต่างๆ SE7EN ได้ออกฉายเป็นนานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม แต่หนังกับมีเนื้อหาออกมาได้ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องและบทบาทของตัวคะครของการไขคดีต่างๆ ที่ทำออกมาให้ดูลึกลับ น่าค้นหา และความน่าติดตามได้ในทุกฉากทุกตอน อีกทั้งยังมีฉากตอนจบที่ดูหักมุมจนมาเป็นที่พูดถึงจนถึงทุกวันนี้ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

 

10. Silence of the Lambs (1991) – คะแนน 8.6/10

Silence of the Lambs (1991)
Silence of the Lambs (1991)

หนังที่มีส่วนผสมทั้งความระทึกขวัญการสอบสวนอย่างมีชั้นเชิงและระทึกขวัญได้อย่างยอดเยี่ยม ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนังสยองขวัญรุ่นคลาสสิค ทั้งการเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ เรื่องราวที่หลอกล่อคนดูได้แนบเนียน ดนตรีประกอบที่ให้อารมณ์แบบสยองขวัญยุคเก่า คือมันมีความเป็นสยองขวัญแบบคลาสสิคที่ทุกอย่างรวมกันเป็นส่วนผสมกันอย่างลงตัว บทภาพยนตร์เชิงจิตวิทยา ที่เล่นกับอารมณ์ด้านลึกของตัวละคร เป็นหนังที่และดูสนุก ตื่นเต้นตลอด 2 ชั่วโมงของหนัง ถ้าใครชื่นชอบหนังอาชญากรรมที่ออกแล้วระทึกขวัญแล้วละก็ Silence of the Lambs ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอีกเรื่องที่น่าดูครับและไม่ควรพลาด

 

11. Star Wars (1977) – คะแนน 8.6/10

Star Wars (1977)
Star Wars (1977)

ถ้าพูดถึงในปี 1977 หนังไซไฟที่เป็นที่จดจำสำหรับใครหลายๆ คนแล้วละก็คงจะพูดถึง Star Wars ในปี 1977 ไม่ได้ ภาพยนต์มหากาพย์ Star Wars (1977) ถือได้ว่าเป็นหนังที่จุดประกายในวงการหนังครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้จนกลายเป็นหนังที่ใครหลายๆ คนในตอนนั้นชื่นชอบมาจนถึงในยุคปัจุบันเลย เพราะหนังเรื่องนี้ได้เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษ และความตระการตามากมายที่เหนือชั้นกว่าหนังในยุคเดียวกัน และความสมบูรณ์แบบนี้เองที่ทำให้ Star Wars กลายเป็นปรากฏการณ์ จนทำให้มีการสร้างภาคต่อและภาคแยก มาจนถึงปัจจุบัน

 

12. Spirited Away (2001) – คะแนน 8.6/10

Spirited Away (2001)
Spirited Away (2001)

ถ้าพูดถึงอนิเมะที่สนุกและน่าติดตามแล้วละก็คงต้องเป็น Spirited Away อนิเมะแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ที่ทำออกมาให้มีความเป็นการ์ตูนเด็กที่ดูสนุก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่ที่สามารถที่จะดูได้เช่นกัน เพราะด้วยมีเนื้อหาและประเด็นที่ดูซับซ้อน และดูมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง และฉากในเรื่องได้ให้สัญลักษณ์มาตีความได้หลากหลาย มันจึงเป็นหนังที่ควรดูมากกว่าหนึ่งรอบหากจะต้องการเก็บรายละเอียดต่างๆ ของเรื่องให้ครบถ้วน นอกจากนั้น หนังยังมีหลายช่วงที่มีเป็นความดาร์ก หม่นเศร้า โหดร้าย น่ากลัว อีกทั้งยังมีหลายปมที่ยังไม่ได้ถูกแก้แล้วให้ทุกคนเอาไปวิเคราะห์กัน เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชั่น ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ข้อคิดดีๆ ที่เหมาะกับคนทุกวัย และประเด็นที่ร่วมสมัยมาจนถึงทุกวันนี้

 

13. The Green Mile – คะแนน 8.6/10

The Green Mile
The Green Mile

หนังที่ถูกดัดแปลงมาจากเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญอย่าง สตีเฟ่น คิงส์ กับ The Green Mile หนังที่เกี่ยวกับนักโทษในเรือนจำที่ต้องรอวันประหารชีวิต แต่เนื้อหาหนังกับได้มีความลึกซึ่งอย่างหน้าเหลือเชื่อ ผลงานการกับกำกับของ แฟรงค์ ดาราบองต์ ได้เข้ามากำกับหนังเกี่ยวกับคุกอีกครั้ง ถึงแม้หนังอาจจะไม่พีคและเข้มข้นเท่ากับชอว์แชงค์ก็ตามแต่ได้ให้อารมณ์ที่ใกล้เคียงไม่มากก็น้อย ก็ต้องบอกว่าถ้าชอบแนวดราม่าแล้วละก็นี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ควรหามาดูอย่างยิ่งครับ

 

14. Interstellar (2014) – คะแนน 8.5/10

Interstellar (2014)
Interstellar (2014)

หนังไซไฟอวกาศที่มีส่วนผสมที่หลากหลาย ที่เรียกได้ว่าทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเรื่องดราม่าในครอบครัว วิทยาศาสตร์เชิงอวกาศ และแอบไปด้วยลักษณะแง่มุมความคิดของตัวละครที่เห็นต่างเมื่อมองคนละขั้ว กับแง่มุมเชิงปรัชญาต่างๆที่หนังได้แอบใส่เอาไว้ให้คิด Interstellar คือหนังไซไฟที่แอบซ่อนประเด็นดราม่าออกมาได้อย่างพอประมาณแต่กลับทำให้หนังในครึ่งแรกทรงพลังมากๆ หนังจะใช้จุดเด่นทางทฤษฎีมิติและเวลาออกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ตัวหนังไม่ได้ดูเข้าใจยากหรือซับซ้อนมากเกินไป แต่อาจจะทำความเข้าใจกับทฤษฎีต่างๆ ที่ให้มาแล้วคิดตามไปเรื่อยๆ สาวกไซไฟแนวอวกาศอย่าได้พลาดเลย

 

15. Léon The Professional (1994) – คะแนน 8.5/10

Léon The Professional (1994)
Léon The Professional (1994)

Leon: The Professional หนังมือปืนรับจ้างที่ให้ความแตกต่างจากและน่าสนใจกว่าเรื่องอื่นๆ ผลงานการกำกับของ ลุค เบสซง ผู้กำกับสัญชาติฝรั่งเศส ที่โดดเด่นในการสร้างหนังแอคชั่น และนำเสนอผ่านมุมมองตัวละครผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการผสมผสานความเป็นหนังแอคชั่น ระทึกขวัญ และความเป็นดราม่า ครอบครัว ออกมาได้อย่างลงตัว เป็นหนังมือปืนที่ให้มากกว่าแค่ความสนุกจากฉากแอคชั่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ เป็นหนังที่สื่อเรื่องความดีความชั่วออกมาในมุมมองที่แปลกใหม่ และ ความรักในอีกมุมมองนึง เรียกได้ว่าเป็น หนังแอคชั่นที่ดูแล้วทั้งกดดันและ ฟีลกู้ดไปพร้อมๆกัน ซึ่งไม่ค่อยเห็นนักในหนังสมัยนี้ ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ไม่ควรพลาด 

 

16. The Lion King (1994) – คะแนน 8.5/10

The Lion King (1994)
The Lion King (1994)

ถ้าพูดถึงค่าย วอลท์ ดิสนีย์ ละก็เราคงจะพูดถึง The Lion King ไม่ได้ นับว่าเป็นหนึ่งในอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากอตีดมาจนถึงในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ผลงานการกำกับของ โรเจอร์ อัลเลอร์ส และ ร็อบ มินคอฟฟ์ โดยหนังจะถูกถ่ายทอดจากการผญจภัยของตัวเอก และความยิ่งใหญ่ต่างๆ ของป่าไพรร็อคออกมาได้อยากตรรการตา รวมยังยังมีข้อคิดแฝงอยู่ในเรื่องอีกด้วย The Lion King ที่ถือได้ว่าเป็น Orinal Animation เรื่องแรกที่ดิสนี่ย์ สร้างขึ้นโดยที่ไม่ได้ดัดแปลงมาจากเทพนิยายแต่อย่างใด รวมทั้งยังมีและดนตรีประกอบของ ฮานส์ ซิมเมอร์ ก็ยังเป็นที่ติดหูมาจนถึงทุกวันนี้

 

17. Back to the Future (1985) – คะแนน 8.5/10

Back to the Future (1985)
Back to the Future (1985)

หากจะให้พูดถึงหนังย้อนเวลาที่ดีที่สุด หรือหนังไซไฟไตรภาคที่ยอดเยี่ยมที่ดีที่สุด ก็จะต้องมีหนังชุด Back to the Future ติดอันดับอย่างแน่นอน ผลงานการกำกับของ โรเบิร์ต เซเมคิส จาก Forest Gump ซึ่งแม้ว่าหนังชุดนี้จะมีอายุมากกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสนุก การมีชั้นเชิงของการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็ยังทรงพลังมาถึงยุคนี้ไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะการที่หนังได้เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของ Culture ยุต 80 ตั้งแต่แฟชั่นการแต่งตัว และเพลงประกอบของหนัง ที่ทุกครั้งที่ได้เปิดดูหนังเรื่องนี้คนดูจะเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังช่วงยุค 80 อีกครั้ง

 

18. The Pianist (2002) – คะแนน 8.5/10

The Pianist (2002)
The Pianist (2002)

ในบรรดาภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามต่างๆ ที่ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องจริงบ้างและแต่งขึ้นมาบ้าง และนี้คือหนังที่เกี่ยวกับหนังสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว โดยที่ตัวหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามมากที่สุด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างถูกสร้างมาจากเรื่องจริงจากชีวประวัติของ Wladyslaw Szpilman นักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ซึ่งถูกกองทัพนาซีเยอรมันตามล่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพยนตร์เริ่มแสดงให้เห็นตั้งแต่ที่ตัวเอกของเรื่องที่ยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีบ้าน มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา จนกระทั่งกองทัพเยอรมันเริ่มเข้าครอบงำโปแลนด์มากขึ้นเรื่อยๆ ชาวยิวเริ่มถูกกีดกัน และถูกจำกัดสิทธิ์ด้วยวิธีการต่างๆ และคนที่ไม่เห็นด้วยกับกองทัพนาซีก็จะถูกกำจัดด้วยวิธีการต่างๆ ที่โหดร้ายขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องขอบอกทุกๆ คนไว้ก่อนว่า เรื่องนี้ดูแล้วหดหู่มากทีเดียว แต่ก็เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีทีเดียว

 

19. The Intouchables (2011) – คะแนน 8.5/10

The Intouchables (2011)
The Intouchables (2011)

The Intouchables ภาพยนต์แนวดราม่า ฟิวกู้ด ที่ทำให้เห็นมิตรภาพระหว่างคนสองคน ผลงานการกำกับและเขียนบทโดยสอง ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส โอลิวิเยร์ นากาช และ เอริก โตเลอดาโน ภาพยนตร์ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของ ฟรองซัวส์ คลูเซ่ต์ หรือ ฟิลิปป์ มหาเศรษฐีที่ได้ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นอัมพาตครึ่งล่างลงไป จุดเด่นของหนังคือการถ่ายทอดเรื่องมิตรภาพระหว่างชนชั้น และการที่จะให้เรียนรู้ที่สร้างมิตรภาพกับเหล่าผู้อพยพในฝั่งยุโรป ยอดเยี่มและน่าติดตาม ด้วยคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นของสองตัวละครหลักของเรื่อง พร้อมการถ่ายทอดมิตรภาพได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นฉากให้ชวนยิ่ม หรือฉากดราม่า ที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่คนยุโรปต่างชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้ 

 

20. The Prestige (2006) – คะแนน 8.5/10

The Prestige (2006)
The Prestige (2006)

หนังแนวสงคราวจิตวิทยาที่เรื่องราวเข้มข้นจนน่าติดตาม The Prestige ถูกดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกันของ คริสโตเฟอร์ พริสต์ ที่ได้ถูกกำกับและเขียนบทโดย โนแลน  และน้องชายของเขา โจนาธาน โนแลน The Prestige เปรียบเสมือนเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ได้ดัดแปลงจากนิยาย ถึงแม้ว่า The Prestige จะไม่ได้เป็นแนวหนังแอคชั่น หรือมีฉากโชว์งานโปรดักชั่นที่อลังการ แต่สำหรับจะเป็นหนังแนวสงครามจิตวิทยาที่เนื้อหาเข้มข้น ชวนให้น่าติดตาม โดยเฉพาะกับประโยคเด็ดที่พูดว่า “ไม่มีใครสนใจคนที่อยู่ในกล่อง” ที่นอกจากจะสะท้อนสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังทำเอาคนดูอึ้งไปตามๆ กัน