slider2
slider2
previous arrow
next arrow
รีวิวหนัง Venom: Let There Be Carnage | ภาคต่อที่ธรรมดา มีดีแค่ส่วน EndCredit!

วายร้ายคู่ปรับของสไปดี้ กลับมาคราวนี้ ต้อนรับวายร้ายตัวใหม่ คาร์เนจ ลูกของเวน่อมนั่นเอง

หลังโลกนี้มีหนังภาคแรกของวายร้ายที่กลายมาเป็นพระเอกในปี 2018 ผ่านมา 3 ปีเศษ โลกก็ได้รับรู้การกลับมาวาดลวดลายในโรงหนังอีกครั้งในภารกิจใหม่พร้อมวายร้ายของวายร้ายอีกที วันนี้ ก็ได้เวลามารับชม ‘Venom: Let There Be Carnage’ ชื่อไทย ‘เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด’ กันเสียทีแล้วล่ะ

Venom 2's bombshell post-credits scene, explained - Vox
Tom Hardy กับเวน่อม ในหนัง เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

ภาคแรกเป็นผลงานการกำกับของ Ruben Fleischer แต่ภาคนี้หน้าที่กุมบังเหียนทิศทางหนังเปลี่ยนมือมาเป็น Andy Serkis เจ้าพ่อโมชั่นแคปเจอร์ ด้วยการร่างเค้าโครงเรื่องจาก Tom Hardy ก่อนจะกลายเป็นบทหนังที่เขียนโดย Kelly Marcel (ผู้เขียนบท Venom และ Fifty Shades of Grey) คนเดิมที่เคยเขียนบทในภาคแรก

ทั้งหมดกลายเป็นภาคใหม่ที่เข้าฉายต้นธันวาปีนี้

 

เรื่องย่อหนัง ‘Venom: Let There Be Carnage’

เอ็ดดี้ บร็อค (Tom Hardy จากหนัง Inception และ The Dark Knight Rises) ชายหนุ่มอดีตนักข่าวนักเปิดโปงที่ทั้งตกงานและเสียแฟนในภาคที่แล้ว เขากลายเป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตร่วมกับเอเลี่ยน เวน่อม คือเอเลี่ยนผู้ไม่ยอมรับให้ตัวเองถูกเรียกว่าเป็นปรสิต แต่มันมีทั้งความห้าวอยากออกกำลัง ทั้งมีความหิวอยู่ตลอดเวลา การใช้ชีวิตของคนพวกขี้แพ้อย่างเอ็ดดี้ทำให้มันรู้สึกอึดอัด แต่หารู้ไม่ว่า ศัตรูตัวใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

คลีตัส คาเซดี้ (Woody Harrelson จากหนัง Kate และ Zombieland: Double Tap) ฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกขังอยู่ในคุก คิดจะสารภาพความผิดแต่ต้องเป็นนักข่าวที่ชื่อเอ็ดดี้เท่านั้น ที่จริงเขามีเจตนาแอบแฝง เป็นแผนการที่เตรียมเอาไว้เพื่อจะแหกคุกออกไปเจอกับฟรานเชส (Naomie Harris จากหนัง Spectre และ Moonlight) แฟนสาวกลายพันธุ์สุดรักสุดหวงที่อยู่ในสถานกักกันอีกที่หนึ่ง

ครั้งนี้เอ็ดดี้ยังคงวนเวียนอยู่กับแฟนเก่า แอนน์ (Michelle Williams) ที่เขาไม่อาจตัดใจ แม้เธอจะมีคนใหม่อย่างแดน (Reid Scott) ผู้แน่นเหนียว สองคนนี้จะได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่เวน่อมต้องรับมือกับวายร้ายหน้าใหม่ ‘คาร์เนจ’ ที่ก็ไม่ใช่ใคร เพราะมันคือคาเซดี้นั่นเอง

 

รีวิวหนัง ‘เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด’

ภาคนี้ วายร้ายจะเป็นคู่รัก คลีตัสและฟรานเชสที่พบกันในโรงเรียนดัดสันดาน ก่อนจะถูกพรากจากกันทำให้คลีตัสต้องดิ้นรนสุดขีดเพื่อจะได้กลับไปเจอกันอีกครั้ง โดยไอเดียของคลีตัสคือการลิ้มรสเลือดของเอ็ดดี้ผู้ที่รวมร่างอยู่กับเวน่อม เพื่อให้ตัวเองกลายร่างและมีพลังเอเลี่ยนที่ใช้แหกคุกออกไปได้นั่นเอง

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาเลือกจะออกอุบายให้เอ็ดดี้มาสัมภาษณ์ส่วนตัว

แต่ที่หนังไม่ได้บอกก็คือ ทำไมคลีตัสจึงรู้ว่าเวน่อมอยู่ในร่างของเอ็ดดี้ ก็ได้แต่เดาว่า คงได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วเจอข่าวเข้าเลยเกิดไอเดีย หรือไม่ก็คือ คลีตัสไม่รู้อะไรเลยแต่ก็ชวนเอ็ดดี้มาสนทนา แล้วจึงได้ลิ้มรสเลือดเข้าโดยบังเอิญจนกลายเป็นคาร์เนจ ถ้าอย่างนั้นแล้วจุดประสงค์จริง ๆ ของการดึงให้เอ็ดดี้มาหาครั้งนี้มันคืออะไร

‘คาร์เนจ’ คือลูกของเวน่อม เป็นเอเลี่ยนที่รวมร่างกับมนุษย์เช่นเดียวกับเวน่อมนี่แหละ แต่เกิดจากหยดเลือดที่เข้าไปอยู่ในร่างของคลีตัส แม้จะแค่นั้น แต่ก็ทำให้เขากลายร่างเป้นวายร้ายตัวสีแดงที่มีร่างสูงใหญ่กว่า มีพละกำลังและอาวุธที่ดูจะร้ายกาจกว่าเวน่อมเสียอีก

Tucker and Dale vs. Evil 2010 دانلود فیلم
โปสเตอร์หนัง Venom: Let There Be Carnage

ภาคนี้ เหมือนความสัมพันธ์ของเอ็ดดี้ บร็อค กับ เวน่อม ดูจะแน่นแฟ้นมากขึ้นแฮะ เสียงของเวน่อมหลายหนก็ดูจะอ่อนโยนลง ทั้งยังคอยเตือนสติเอ็ดดี้อยู่หลายหน ฟังดูเหมือนจะอยู่ร่วมกันด้วยดีมากขึ้น แต่ก็นั่นแหละ สักพักก็งอนกัน ทะเลาะกัน ไม่หยุดหย่อน อารมณ์เหมือนผัวเมียตีกันว่างั้น

ช่วงนี้ บทพูดเลยอาจจะเยอะหน่อย แต่บางมุกก็ชวนขำชวนฮาได้ดีอยู่นะ

บางฉากที่ใส่เข้ามาก็ดูจะแหม่ง ๆ บางฉากดูเป็นการช่วยกันสืบเรื่องราว แต่เล่นเอางงว่า เวน่อมไปเอาความสามารถนี้มาจากไหน หรือฉากที่เวน่อมงอนหนีไปเที่ยวผับ เออ ก็ไปได้วุ้ย ในฐานะที่กาวมาตั้งแต่ภาคแรก ก็เลยปล่อย ๆ ไป มันคงเป็นแนวของเขาอะนะ

ระหว่างเอ็ดดี้กับเวน่อมจึงกลายเป็นหนังดราม่าของคู่รัก ทะเลาะกันไปเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกว่ามันจะเยอะไปไหน ขณะที่เรื่องราวก็ดูจะไม่ได้ขยายไปถึงคนนอกแต่อย่างใด คนในเมืองที่พวกเขาอยู่ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรที่มีวายร้ายมาอยู่ร่วมเมือง เวน่อมไม่ได้สนใจจะทำร้ายผู้คน แม้แต่คาร์เนจก็สนใจแค่เวน่อมเช่นกัน หนังจึงสนใจเล่าแต่เฉพาะเหตุที่เกิดขึ้นกับเหล่าตัวละครเท่านั้น

จะว่าไป ก็เหมือนหนังพยายามจำกัดวงความเสียหาย ทั้งจำกัดให้ไม่ต้องเล่นกับโลเกชันใหญ่ให้เปลืองงบ
Watch 'Venom 2' Online Streaming At Anywhere Free Link – FilmyOne.com – Filmy One
Naomie Harris กับคาร์เนจ ในหนัง เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

ความดีทั้งหมดรวมไว้ให้กับความละเอียดลออในการสร้างซีจีทั้งตัวเวน่อมและคาร์เนจ รายละเอียดคมชัดเสียจนโดดเด่นยิ่งกว่าความลึกของตัวละคร พวกเขาทำทุกสิ่งไปราวกับอยู่ในโลกของการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ต้องการความสมจริง ความหนักแน่น หรือบทที่พลิกผันเกินคาดเดา เอาจริงๆ ทำเป็นหนังแอนิเมชันมาให้ดูก็น่าจะได้ แถมยังอาจชวนให้เชื่อได้มากเสียยิ่งกว่า

ระหว่างดูไป ก็อาจสงสัยว่า ทำไมเวน่อมชอบจะยืนเท่ ๆ เลียนแบบซูเปอร์แมนบนยอดตึก ซึ่งมองอีกที เวน่อมอาจต้องการจะเลียนแบบหนังคิงคองก็เป็นได้

เรื่องราวไหลเรื่อยแบบไม่ต้องปวดหัว ดูสนุกได้ แถมเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน จนถึงขนาดบางช่วงเน้นการต่อบทสนทนากันมากเกินไปด้วยซ้ำ กระนั้น หลายคนก็ยังบอกว่าเดินเรื่องเร็ว ขนาดนี้หนังก็ยังมีความยาวเพียบ 97 นาที ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าตัดบทสนทนาพ่อแง่แม่งอนทิ้งไป จะเหลือสักกี่นาที แน่นอน คนที่ชอบสิ่งนี้ย่อมจะมองอีกแบบหนึ่ง

'Venom 2' had to "tone back" scene where man gets tongued to death - Flipboard
คาร์เนจ ในหนัง เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด

หนังเล่าถึงการอยู่แบบขาดกันไม่ได้ของเอ็ดดี้กับเวน่อม การทะเลาะกันของพวกเขาเปิดให้วายร้ายได้มีเวลาหายใจ แต่ก็กลับคิดการณ์ไม่ใหญ่พอ แถมเรื่องราวยังดำเนินไปแบบไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร ทุกอย่างขมวดมาถึงช่วงปิดท้ายฉากไคล์แมกซ์ ความสนุกที่สูงสุดของหนังคงเป็นช่วงเวลานี้ การปะทะกันระหว่างเวน่อมและคาร์เนจ โดยมีมนุษย์และมนุษย์กลายพันธุ์ร่วมอยู่ด้วย การต่อสู้ที่พาสนุกไปแบบไม่ต้องใช้สมอง

ไม่ต้องรีบลุกไปไหน หนังปิดท้ายด้วยฉากแถมที่หลายคนกรี๊ดกร๊าดซึ่งจะมากลางเครดิต