Review : Wednesday งานดาร์กเเฟนตาซี คัดมาเเล้วว่าต้องดู สนุกชัวร์
อีกหนึ่งซีรีส์ยอดนิยมที่กำลังเป็นกระเเสอยู่ในตอนนี้ ซึ่งคอซีรีส์หลายคนกำลังให้ความสนใจกันอย่างมากมายคงหนีไม่พ้น Wednesday ซีรีส์เเนวดาร์กเเฟนตาซีของเด็กสาวจาก The Addams Family ก่อนอื่นใด อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจในเบื้องต้นร่วมกันก่อนว่า The Addams Family มิได้เพิ่งเกิดขึ้นในตอนนี้ เเต่ทว่ามีมาหลายเวอร์ชันเเล้วก่อนหน้านี้ รวมเวอร์ชันล่าสุดด้วย โดยทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นจากผลงานการ์ตูนเเก๊กที่ตีพิมพ์ลง The New Yorker ในปี 1938 เเน่นอนคนในรุ่นนั้นคงเหลือเพียงผลงานดี ๆ เท่านั้นที่ให้เราทุกคนสืบสานกันต่อไปตราบชั่วนิรันดร์
หากเราติดตามความเป็นมาเกี่ยว The Addams Family จะเห็นได้ว่ามันถูกดัดเเปลงในหลายเเพลตฟอร์ม ซึ่งการดัดเเปลงในเเต่ละครั้ง ล้วนเเล้วสร้างความเเตกต่างเเละเพิ่มเสน่ห์ให้กับ The Addams Family เป็นอย่างมากจนกลายเป็นภาพติดตาเเละความทรงจำที่ดี ทั้งในเเง่ฉบับคนเเสดง, ภาพยนตร์, ซีรีส์, เเอนิเมชัน 3 มิติ, การ์ตูน ละครเวที, คอมิก, วิดีโอเกม หรืออะไรก็ตามเเต่จวบจนวันนี้ผ่านมาเเล้วกว่า 84 ปีเลยทีเดียว
ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านมานี้ การ์ตูนต้นฉบับเป็นการ์ตูนออกเเนวตลกร้ายเสียดสีที่เล่าผ่านครอบครัวซึ่งได้นามสกุลมาจากผู้เเต่ง ว่าด้วยเรื่องราวครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยเเต่กลับทำตัวเเปลกประหลาดเเห่งศตวรรษที่ 20 อันประกอบไปด้วยสมาชิกในครัวเรือนมากถึง 6-7 คน นี่ยังไม่นับมือที่ทุกคนต่างชื่นชอบที่มีชื่อว่า Thing เเละสุนัขของพวกเขา เเม้ภาพภายนอกของครอบครัวนี้ค่อนข้างน่ากลัวเเละไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยเนื่องจากพวกเขาต่างพัวพันเเละหมกมุ่นอยู่กับศพเเละความตาย เเต่เอาเข้าจริงพวกเขาทุกคนต่างจิตใจดี ไม่คิดร้ายกับใคร ที่สำคัญไม่เคยคิดเอาเปรียบใครผ่านการร่ำรวยของพวกเขาเลยเเม้เเต่น้อย
วกกับมาในปัจจุบันดีกว่าครับ หากถามว่าทำไมผมถึงเลือกดูซีรีส์เรื่องนี้ เหตุผลหลักคงเป็นจากการหลงไหลในหน้าปกหรือโปสเตอร์ที่ถูกออกเเบบมาได้อย่างสร้างสรรค์ น่าติดตาม เเค่เห็นครั้งเเรกก็เหมือนถูกกลืนเข้าไปในโลกของ Wednesday เรียบร้อยเเล้ว ด้วยโทนสีที่มืดประกอบกับสีหน้าเด็กน้อยที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าช่างมีความโดดเดี่ยว ขลังหน่อย ๆ เเต่ให้ความรู้สึกหลอน ๆ ไม่น้อยเลยล่ะ ทว่าโดยส่วนตัวผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็นอยู่เเล้ว จึงทำให้การตัดสินใจดูยิ่งง่ายไปกันใหญ่เเทบไม่ต้องใช้ความคิดเลยด้วยซ้ำ
หลัก ๆ เเล้ว ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของ เวนส์เดย์ เด็กสาวที่มีใบหน้าน่ารักเเต่ทว่าเเอบหลอนอย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นดั่งขบถในสายตาของใครหลายคน เเต่เเล้ววันหนึ่งพ่อของเธอตัดสินใจส่งเธอเข้าสู่โรงเรียนเนเวอร์มอร์เเสนเเปลกประหลาด อันเป็นโรงเรียนที่เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำ เวนส์เดย์ ไปเผชิญเรื่องราวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งในเมืองเเละโรงเรียน ทำให้สาวน้อย เวนส์เดย์ จำต้องไขปริศนาที่พ่อเเม่ของเธอเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อหลายปีก่อน
เท่าที่ติดตามดูบอกได้คำเดียวเลยว่า คุ้มเกินคาด นี่คิดว่าจะวกไปดูใหม่อีกครั้งหลังจากเขียนบทความฉบับนี้ ด้วยความที่เรื่องราวถูกออกเเบบให้มีความน่าสนใจเเละดำเนินไปด้วยความกระชับไม่ยืดเยื้อชวนน่าเบื่อ ผนวกกับผูกปมให้คิดระหว่างทางด้วยเเล้วนั้น ยิ่งเป็นเเนวทางการทำซีรีส์ที่ผมชื่นชอบเลยก็ว่าไว้ อีกทั้งยังดื่มด่ำสนุกไปกับความอลหม่านของตัวน้อง เวนส์เดย์ ในเเบบฉบับของ The Addams Family ช่างเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดเเล้ว ดูเพลินทั้งเรื่องอ่ะ ในส่วนของการนำเสนอตัวละครหลักเอาเป็นว่าผมไม่ติด ทุกอย่างทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์เเบบเเละเหมาะสม เเต่ที่ทึ่งคือต้องยอมรับในเเง่ของการทำตัวละครรองหรือสมทบตัวอื่นก็ต่างไม่มีใครเลยเเม้เเต่คนเดียวที่ถูกทอดทิ้ง เเต่ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้โดดเด่นไม่เเพ้ตัวละครหลัก โดยมีพื้นที่บางส่วนให้จดจำขึ้นใจ ไม่ว่าจะเป็นครูใหญ่ที่ดูดุดันเเละน่ากังขา บวกกับฟากฝั่งเด็ก ๆ อย่าง บิยังกา ก็ถูกรังสรรค์ออกมาได้อย่างดึบดี เเละตัวละครอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ท้ายสุดที่ว้าวจนต้อนย้อนกลับดูซ้ำ คงหนีไม่พ้นการนำเสนอ Thing เจ้ามือสุดกวนที่คอยติดตามนางเอกไปทุกทีนี่เเหละครับ นอกจากเคลื่อนไหวได้เเล้วยังรับเล่นบทดราม่าเเละตลกได้ด้วยโดยไม่ต้องพูดให้เสียเวลาร่ำเวลาเลย ยอมรับว่าในส่วนนี้เป็นอะไรที่เเหวกพอควร เเละเป็นไอเดียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่เหมือนใคร สร้างการจดจำได้ง่าย ถ้าอย่างงั้นคงต้องขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังการนำเสนอมือมาสคอตสุดน่ารักนี้ทุกท่านด้วยเด้ออออ โดยเฉพาะ วิกเตอร์ โดโรบานตู ที่เเสดงเป็นมือได้อย่างเเนบเนียนน่าสนใจ
ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ หากไมพูดถึงผู้กำกับรุ่นใหญ่ของเรื่องอย่าง ทิม เบอร์ตัน ก็คงเป็นการทำร้ายจิตใจมากจนเกินไป ถามว่าผู้กำกับคนนี้มีความเก่งเฉพาะตัวไหม? ก็คงต้องเอ่ยบอกว่าเขาผ่านผลงานวิสัยทัศน์เเฟนตาซีในเเบบมืดหม่นมาเเล้วหลากหลายเรื่อง โดยเเต่ละเรื่องล้วนเเล้วเเต่อยู่ในความทรงจำที่ดีของผู้คนได้ทั้งนั้น เเต่ที่น่าเเปลกใจเเละชวนฉงนใจไม่น้อยคงเป็นการที่เเฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง เเอดดัมส์ กลับมิเคยตกอยู่ในกำมือของเขาเลยมาอย่างยาวนาน เเต่ที่ทำฮานั่นคือ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้อำนวยการสร้างคนใดจะควบตำเเหน่งเขียนบทได้อย่างเเหวกวงการมากไปกว่าสองคู่หูมากความสามารถอย่าง อัลเฟรด กอจห์ เเละ ไมล์ส มิลลาร์ อีกเเล้ว ถึงเเม้การควบตำเเหน่งในครั้งนี้จะดูเเหวกชาวบ้านชาวช่อง เเต่ทว่าทั้งคู่กลับสามารถหาเเนวทางให้ครอบครัวเเอดดัมส์โลดเเล่นในยุคสมัยใหม่ได้อย่างน่าสนใจ เรียกว่าร่วมสมัยเเละเข้าถึงคนรุ่นใหม่เป็นที่สุด นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่อาจทำให้ ทิม เบอร์ตัน เเสดงศักยภาพเเละความสามารถของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ เเทบไม่เหมือนในตอนที่เขารับทำเเฟนตาซีโรงเรียนคนเหนือมนุษย์ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children ที่ยังอยู่ในวังวนเเละยึดติดกับกรอบของเนื้อหาในหนังสืออยู่เลยเป็นหลัก
ถึงตรงนี้ก่อนจบคงต้องพูดถึงอีกหนึ่งสิ่งที่น่าชื่นชม เเละเป็นการตีความที่สำคัญ นั่นคือ การเปลี่ยนให้ตัวละคร Wednesday Addams เป็นตัวละครละตินที่รับเล่นโดย เจนน่า ออร์เทก้า เธอเป็นนักเเสดงสาวที่มีใบหน้าสวยสดงดงามเด่นสง่าที่เป็นส่วนผสมของสามเชื้อสาย ทั้งอเมริกัน เม็กซิกัน เเละเปอร์โตริโก เเต่เดิมที Addams Family ก็เป็นตระกูลที่มีกลิ่นอายความเป็นละตินอยู่เเล้วเป็นทุนเดิม เเต่เพิ่งเฉิดฉายที่สุดก็คงเป็นฉบับนี้เเหละครับ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า Addams Family ถูกวางเเนวทางหรือวาดภาพให้เป็นตระกูลชาวอเมริกัน โดยมาพร้อมกับชื่อของตัวละครที่น่าสลดสยอง ง่าย ๆ เลยคือ อย่างในกรณี คุณลุง ของตระกูลนี้ที่มีนามว่า Fester ที่ให้ความหมายทางภาษาว่า แผลเปื่อยเน่าเป็นหนอง นี่ยังไม่นับตัวละครอื่น ๆ ที่เมื่อรู้เเล้วเเทบอึ้งตาม ๆ กัน เหนืออื่นใด การวางโครงเรื่องล่าสุดคงเป็นการยกระดับตีเพดานใหม่ทั้งหมด โดยการเปลี่ยนจากคอเมดี้ครอบครัวเป็นเเนวเหนือธรรมชาติเเบบเต็มตัว โดยมีเชื้อ Harry Potter เป็นส่วนผสมสำคัญครอบอยู่ทุกหนเเห่งเลยล่ะ
เป็นอันว่า Wednesday เป็นซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาดเลยเเม้เเต่ตอนเดียว โดยซีซั่น 1 มีทั้งหมด 8 ตอนเท่านั้น ดังนั้น อยากวอนเพียงสั้น ๆ ว่า ดูกันให้จบกันทุกคนเด้อออ
สามารถอ่านบทความจากเราเพิ่มเติมได้ที่
https://uhdmax.net/category/korean-series-news/?swcfpc=1
