Mark Wahlberg ได้รับเลือกให้แสดงในผลงานการกำกับเรื่องต่อไปของ Mel Gibson เรื่อง Flight Risk ซึ่งนับเป็นการกลับมากำกับของดารา Mad Max หลังจากห่างหายไป 7 ปี

หลังห่างหายจากการนั่งเก้าอี้ผู้กำกับไป 7 ปี เมล กิ๊บสัน ก็พร้อมที่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า Flight Risk โดยมี มาร์ค วอห์ลเบิร์ก รับบทนำ เปลี่ยนจากการแสดงมาเป็นผู้กำกับละครปี 1993 เรื่อง The Man Without A Face ในที่สุดกิ๊บสันก็คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเรื่อง Braveheart ในปี 1995 ความพยายามในการสร้างภาพยนตร์ของกิ๊บสันยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หลายรายการสำหรับแต่ละครั้งหลังกล้องของเขา รวมถึงการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมครั้งที่สองจากภาพยนตร์ดราม่าสงครามเรื่อง Hacksaw Ridge ใน ปี 2559

มีรายงานจาก Deadline ว่า Lionsgate เตรียมกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของอดีตนักแสดงร่วม Father Stu และ Daddy’s Home โดย เมล กิ๊บสัน จะกลับมาทำหน้าที่กำกับ จากบทภาพยนตร์ของ จาเร็ด โรเซนเบิร์ก เรื่อง Flight Risk จะได้เห็นวอห์ลเบิร์กรับบทเป็นนักบินที่มีหน้าที่ขนส่งอาชญากรอันตรายเพื่อการพิจารณาคดี แม้ว่าวอห์ลเบิร์กจะเคยร่วมงานกับกิบสันบนจอมาก่อน แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขากำกับโดยดารา จาก Lethal Weapon

แม้ว่ากิบสันจะมีผลงานทางจอมากมายสำหรับชื่อของเขา ย้อนหลังไปถึงปี 1970 และบทบาทที่โดดเด่นของเขาใน Mad Max ของ จอร์จ มิลเลอร์ แต่งานของเขาในฐานะผู้กำกับมักจะถูกเลือกมากกว่า แม้ว่าภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่เขารับผิดชอบกำกับจะทำผลงานได้ดีในบ็อกซ์ออฟฟิศและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ แต่เขากำกับภาพยนตร์ทั้งหมดเพียง 5 เรื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

ด้วยความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ เมล กิ๊บสัน ในการสร้างภาพยนตร์ที่ไม่เพียงดึงดูดนักวิจารณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชมภาพยนตร์ในวงกว้างด้วย จึงสมเหตุสมผลที่ Lionsgate กระตือรือร้นที่จะได้เขามาร่วมกำกับหนึ่งในคุณสมบัติเด่นล่าสุดของพวกเขา เมื่อรวมกับความสามารถพิเศษและการดึงดูดผู้ชมของ Walhberg แล้วFlight Riskจึงอยู่ในสถานะที่ดีที่จะมอบความสำเร็จให้กับสตูดิโออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันถือเป็นจุดหักเหที่โดดเด่นจากความชอบของ Gibson ที่มุ่งไปที่มหากาพย์ประวัติศาสตร์

ไม่ว่าจะเป็นที่ราบสูงสกอตแลนด์ช่วงปลายศตวรรษที่ 13 คาบสมุทรยูคาทานในช่วงเวลาที่สเปนยึดครอง หรือสมรภูมิที่โอกินาว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ความพยายามในการกำกับของกิ๊บสันมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการนำเสนอมหากาพย์ประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ในขณะเดียวกัน เนื้อหาที่คล้ายหนังระทึกขวัญที่อยู่เบื้องหลัง Flight Risk ดูเหมือนจะเป็นการออกจากงานก่อนหน้าของเขาครั้งใหญ่ ไม่ว่าภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้จะมอบรางวัลแบบเดียวกับที่กิบสันเคยสะสมเวลาอยู่หลังกล้องหรือไม่นั้นยังต้องรอดูกันต่อไป แต่ผู้ชมน่าจะอยากเห็นเขากลับมาร่วมงานกับวอห์ลเบิร์กอีกครั้ง

ที่มา: screenrant.com